ข้ออ้างของครูที่ทำร้ายเด็ก

            ข่าวเกี่ยวกับเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ซึ่งเป็นเพียงเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาลหนึ่งเพียงเท่านั้น ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายด้วยการตี  การจับหัวโขกโต๊ะ  การผลักติดผนังห้อง และยังมีการนำเด็กไปขังในห้องน้ำ หรือบางครั้งก็ให้เด็กออกยืนหน้าห้องเป็นชั่วโมง  กำลังเป็นกระแสโด่งดังมากในตอนนี้

             เพราะพ่อแม่ของเด็กต่างก็พากันไม่ยอม พยายามหาหลักฐานที่ครูทำร้ายลูกของตัวเอง เอามาเพื่อนำไปส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินคดีเอาผิดครูคนนี้ให้ได้ เพราะผู้ปกครองหลายคนกลัวว่า เหตุการณ์ที่ลูกของตัวเองถูกครูทำร้ายในโรงเรียนนี้จะเงียบไป และครูจะเสียค่าปรับเพียงแค่ 500 บาทแล้วก็จะลอยนวลไม่มีความผิดนั่นเอง 

            อย่างไรก็ตามในระหว่างที่เรื่องราวของครูตีเด็กของโรงเรียนสารสาสน์  ราชพฤกษ์ กำลังมีการถูกนักข่าวนำมาเสนอข่าวจนเป็นข่าวโด่งดังทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้  ทางด้านโรงเรียนก็ทำได้เพียงแค่ ยกเลิกการจ้างงานครูคนดังกล่าว และส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี 

          ส่วนทางด้านครูที่ทำความผิดนั้น ได้ออกมาพูดคุยเรื่องนี้กับนักข่าวว่า ที่เธอทำไปเพราะว่าเธอเครียดแล้วมาเจอกับเด็กเล็กๆจำนวนหลายคนที่เธอต้องดูแล และพอเด็กดื้อจึงทำให้เธอนั้นต้องลงโทษเด็ก ซึ่งเธอบอกว่าเธอมีปัญหาส่วนตัวในครอบครัวทำให้เธอเครียด เพราะแม่ของเธอไม่สบาย และอีกงานของเธอก็เยอะ บางครั้งทำงานไม่ทัน จึงอาจจะมีการระบายอารมณ์ด้วยการมาลงมือทำร้ายเด็ก ตามที่เห็นในคลิป

        ซึ่งจากคำพูดประโยคนี้ มันกำลังสื่อให้เห็นว่าครูคนนี้ไม่ได้มีวุฒิภาวะมากพอที่จะมาเป็นครูได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูที่ต้องมีหน้าที่ดูแลเด็กนักเรียนระดับชั้นอนุบาลนั้น ยิ่งไม่สมควรให้เธอมาดูแล เพราะว่าไม่สามารถแยกแยะ ความรู้สึกของตัวเองได้  เมื่อมีเรื่องเครียดหรือเรื่องมารบกวนจิตใจก็ระบายออกด้วยการทำร้ายเด็กแทน คนที่มีภาวะจิตใจแบบนี้ไม่สมควรมาประกอบอาชีพครู เพราะผลที่ตามมานั้นจะมีผลเสียต่อเด็กเยอะมาก เพราะเด็กอนุบาล 1 นี้กำลังเพิ่งเริ่มเข้ามาเรียนหนังสือในโรงเรียน 

         พวกเขาควรเจอครูที่สามารถโน้มน้าวให้พวกเขาอยากมาโรงเรียน อยากเรียนหนังสือ รักการมาโรงเรียนเพราะเป็นการปูรากฐานที่ดีให้กับเด็ก แต่เมือมาโรงเรียนแล้วต้องมาเจอกับครูแบบนี้จะทำให้จิตใจของเด็กได้รับการกระทบกระเทือนและไม่อยากมาโรงเรียน ที่สำคัญเด็กจะมีบาดแผลในใจไปอีกนานเลยทีเดียว 

          ครูที่ดีนั้น ต่อให้มีเรื่องราวเศร้าเสียใจมากมายแค่ไหน แต่นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของครู ไม่สมควรนำมาปะปนกับเรื่องของงาน และยิ่งไม่สมควรที่จะมาลงกับเด็กนักเรียน  ดังนั้น การที่บอกว่าเครียดเรื่องส่วนตัวจึงมาลงกับเด็กนั้น มันเป็นเพียงแค่ข้ออ้างเท่านั้น 

 

สนับสนุนโดย  gclub สมัครสมาชิก

Continue Reading