ประเทศไทยกับสงครามโลกครั้งที่1

   สงครามโลกครั้งที่ 1หรือที่เรียกกันว่ามหาสงครามนั้น โดยมีศูนย์กลางของสงครามอยู่ที่ยุโรป โดยระยะเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 1นั้นอยู่ระหว่างเดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ไปจนถึงเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๑ ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ค่อนข้างจะยาวนานมาก โดยมีประเทศมหาอำนาจเกือบทุกประเทศของโลก

มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดสงครามครั้งนี้ โดยสงครามนั้นจะมีการแบ่งเป็นสองฝ่ายคือ ฝ่ายสัมพันธมิตรและฝ่ายมหาอำนาจกลาง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรนั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่  ไตรภาคี  คือการรวมตัวกันของสามประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศสและรัสเซีย โดยฝ่ายมหาอำนาจกลางนั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ ประเทศเยอรมนี ออสเตรียและฮังการี และมีการกระจายตัวเมื่อมีการเข้าร่วมสงครามของชาติต่างๆมากขึ้น 

ซึ่งสาเหตุที่ก่อให้เกิดสงครามนั้น เกิดจาก อาร์ชด ยุกฟรันซ์ แฟร์ดีนันท์ ซึ่งเป็นมงกุฏิราชกุมารแห่งประเทศออสเตรียและฮังการี ได้เกิดเหตุถูกคนร้านรอบยิงจนสิ้นพระชน ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นก็เกิดความขัดแย้งกันมาตลอดอยู่แล้ว แต่ในวันนั้นเองสงครามก็มีการเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ เมื่อเหล่าทหารของออสเตรียและฮังการีเปิดฉากบุกไปที่ประเทศเซอร์เบีย ทำให้เกิดเป็นสงครามขึ้น และมีการลุกลามไปยังชาติต่างๆทั่วโลก ซึ่งถือว่าสงครามนี้เป็นสงครามที่ใหญ่ที่เกิดขึ้นในโลกนี้เลยก็ว่าได้

ในช่างที่เกิดสงครามนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นและมีผลกระทบเพียงที่ยุโรปเท่านั้นแต่ส่งกระทบไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกด้วยและหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบก็คือประเทศไทยนั่นเอง ซึ่งช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่1นั้นตรงกับสมัยของรัชกาลที่6 โดยขณะนั้นประเทศไทยยังคงใช้ชื่อว่าสยามประเทศอยู่ และในสงครามนั้นประเทศไทยคงความเป็นกลาง และเมื่อเวลาได้ผ่านไปสามปีและเมื่อวันที่26เดือนกรกฎาคม พ.ศ.2460 นั่งเอง รัชกาลที่6ทรงประกาศว่าจะเข้าร่วมสงครามสงครามและอยู่ในฝ่ายพันธมิตรหรือฝ่ายประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศสและรัสเซียนั่นเอง

โดยชาวสยามส่วนใหญ่ที่เป็นข้าราชกาลและประชาชนในยุคนั้นจะสนับสนุนประเทศมหาอำนาจกลางทำให้รัชกาลที่6 ต้องโน้มน้าวประชาชนโดยพระองค์มีความตระหนักว่าหากเข้าร่วมในฝ่ายพันธมิตรนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าเข้าร่วมกับฝ่ายมหาอำนาจนั่นเองจะเกิดผลดีกว่าและเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย 

โดยรัชกาลที่ 6 นั้นพระองค์ทรงมีการแจ้งต่อคณะที่ปรึกษาแล้วว่า สยามนั้นมีโอกาสเสี่ยงต่อการสูญเสียมากกว่าหากดำรงตำแหล่งความเป็นกลาง มีความเป็นไปได้ที่เยอรมนีจะแพ้สงคราม และถ้าหากมีการเข้ายึดทรัพย์สินจากไตรภาคีในสยามแล้วนั้นสยามก็จะไม่สามารถทำอะไรได้ หรือเท่ากับว่าไม่เหลืออะไรเลยนั้นเอง แต่หากเข้ากับฝ่ายสัมพันธมิตรสิทธิสัญญาที่ได้ทำไว้กับเยอรมนีนั้นจะถูกยกเลิกไปโดยปริยายนั่นเอง 

ซึ่งผลจากการเข้าร่วมของการทำสงครามของไทยนั่นก็คือได้มีการชนะสงครามและได้มีการแก้ไขสนธิสัญญาเบาว์ริงนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  บาคาร่าทดลอง

Continue Reading