ฟองสบู่แตกคืออะไร

โดยค่าฟองสบู่แตกแปลง่ายภาษาบ้านๆเลยคือการที่ของสิ่งหนึ่งมีราคาแพงมาขึ้นเรื่อยๆโดยที่ไม่มีมูลค่าของของสิ่งนั้นคืออยู่ดีๆมันก็แพง แพงกว่าที่ตัวของมันเองไม่ได้มีมูลค่าจนคนมีความรู้สึกว่าของสิ่งนี้มันแพงแล้วมันก็แพงมากขึ้นทุกวันเดี๋ยวในอนาคตมันจะต้องแพงขึ้นอีกแน่ๆก็ทำให้คนพากันเข้ามาซื้อกันมากๆ

จนกระทั่งของสิ่งนั้นแพงขึ้นไปอีกเรียบเสมือนฟองสบู่ที่ค่อยๆลอยสูงขึ้นไปเรื่อยๆโดยที่ไม่มีเนื้อในอะไรเลยหรือว่าไม่ได้มีความแข็งแรงอะไรเลยและวันนึงฟองสบู่ฟองนั้นก็จะแตกในกลางอากาศแล้วก็ทิ้งให้กับคนที่รอลุ้นว่าฟองสบู่นั้นจะลอยขึ้นไปถึงไหนมันเลยทำให้รู้ว่าตอนนี้มันไม่เหลืออะไรเลย

ซึ่งเขาก็เลยได้เอาลักษณะของสบู่มาเปรียบเทียบกับของสิ่งหนึ่งมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงจุดนึงคนก็ค้นพบว่ามันแพงเกินไปแล้วเราไม่ได้อยากได้ของในราคาแบบนี้ก็เลยไม่ซื้อสุดท้ายราคาก็จะดึ่งลงอย่างรวดเร็วแล้วก็ทำให้คนที่ซื้อของชิ้นนั้นมา

ในราคาแพงก็พบว่าของที่เราถืออยู่มันไม่มีค่าอะไรเหลือแล้วนี่แหละคือคำที่มาฟองสบู่แตกและในวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องฟองสบู่แตกครั้งแรกๆของประวัติศาสตร์กันบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดังมากๆเลยและเป็นเรื่องระดับโลกเลยเรียกได้ว่าใครที่เรียนเรื่องการเงินอะไรต่างๆถ้าพูดถึงเรื่องฟองสบู่จะต้องนึกถึงเรื่องนี้อย่างแน่นอน

โดยจะเป็นเรื่องของTulip Maniaปกติเวลาที่เราพูดถึงดอกทิวลิปหรือว่าทุ่งทิวลิปกันเราก็มักจะนึกถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ถูกไหมแต่ทุกคนรู้หรือไม่ก่อนศตวรรษที่ 17ชาวเนเธอร์แลนด์ไม่รู้จัดทิวลิป

นอกจกานี้ชาวเนเธอร์แลนด์จะไม่ร็จักแล้วชาวยุโรปก็ไม่รู้จักเช่นกันเพราว่าจริงๆทิวลิปไม่ใช่ดอกไม้พื้นถิ่นของชาวยุโรปแต่ว่าเป็นดอกไม้ของทางพื้นถิ่นของตะวันออกกลางก็มีถิ่นกำหนดอยู่แถวๆอิรักตุรกีหรืออะไรประมาณนี้ในช่วงศตวรรษที่17สุลต่านแห่งตุรกีก็เป็นคนเอาดอกทิวลิปเข้ามาที่ยุโรปมาทำให้ชาวยุโรปได้รู้จัก

ถ้าหากใครยังไม่เชื้อก็ค้นหาดูรูปภาพศิลปะของชาวตะวันออกกลางในยุคนั้นจะมีรูปทิวลิปเต็มไปหมดเลยปรากฎว่าได้มีดอกไม้ที่หายากเข้ามาชาวยุโรปก็ชอบกันเวลาคนได้ของหายากมากก็จะให้ความสำคัญกับมันพอมีดอกไม้ที่แปลกๆเข้ามาชาวยุโรปโดยคนที่เป็นผู้ดีจะตื่นเต้นกันและเป็นเครื่องการอวพรวยกันในสมัยนั้น

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

Continue Reading