เกาะกระแส “พีท คนเลือดบวก”

           พูดได้เลยว่าตอนนี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก พีท คนเลือดบวก คนที่ออกมาบอกกับสังคมว่าเค้าก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่ติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งล่าสุดที่เป็นกระแสดังในโลกโซเชียล นั่นเกิดมาจากที่พีทได้ออกมาโพสต์เชิญชวนให้คนเข้าร่วมเรียนคอร์สที่เค้าเปิดสอนว่า มีเซ็กส์สดยังไงให้ปลอดภัยจากเชื้อเอชไอวี โดยค่าเข้าเรียนตกคนละ 500 บาท

ซึ่งโพสต์นี้ได้มีพยาบาลสาวที่ไม่เห็นด้วยได้ออกมาแชร์โพสต์ดังกล่าวและเกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างรุนแรงว่า ถ้าหากคุณพีทมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกันแล้วปลอดภัยจริง ตัวคุณพีทเองก็คงไม่ติดเชื้อหรอก คิดได้ยังไงถึงจะไปสอนคนอื่น หลังจากคุณพีทได้เห็นข้อความดังกล่าวก็เกิดการปะทะคารมผ่านทางตัวหนังสือกันขึ้นจนถึงขั้นต้องไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันกันไว้ที่โรงพัก 

            คุณพิทคนที่เป็นข่าวดังอยู่ตอนนี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่าตัวเค้าเองติดเชื้อเอชไอวีมาทั้งหมด 4 ปี และหลังจาก 3 ปี ที่เขาได้รับยาต้านไวรัส ผลการตรวจเลือดของเค้าออกมามีค่าต่ำกว่า 40 เค้าเชื่อตามทฤษฐี U= U ว่า คนเลือดบวกแบบเค้า เวลามีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนโดยไม่ได้ใส่ถุงยาง ก็ไม่สามารถส่งเลือดบวกหรือแพร่เชื้อเอชไอวีให้กับคู่นอนของเค้าได้

  ซึ่งตอนนี้ที่เค้าได้มาเปิดเผยชีวิตตัวเองผ่าน Facebook ก็เพื่อที่จะได้สอนให้คนรู้จักกับโรคนี้มากขึ้น รวมถึงแนะนำการใช้ชีวิตในสังคม  วิธีป้องกันตัวเอง หรือแม้กระทั่งขั้นตอนการไปรักษา การรับยาต้านไวรัสจากทางโรงพยาบาล ซึ่งความคิดที่จะมาเปิดคอร์สสอนนั่นก็เพื่อให้คนที่เป็นโรคเอดส์และมีรสนิยมทางเพศแบบเค้าคือการไม่ชอบใช้ถุงยางได้เข้ามาเรียนก็เท่านั้นเอง

          โดยส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่คุณพีทพูดถึงทฤษฎี U=U นั้นมันใช้ได้เฉพาะผู้ที่ติดเชื้อเอชไอวี ที่ได้รับยาต้านไวรัสมาอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี ซึ่งเขาต้องดูแลตัวเองอย่างดี กินยาให้ตรงเวลาต่อเนื่องตลอด และผลตรวจเลือดต้องมีค่าต่ำกว่า40 เค้าถึงไม่ไปแพร่เชื้อโรคให้กับคนอื่นนั้นมันก็ถูกต้อง  แต่นั่นมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องออกมาบอกว่ามาพูดเชิญชวนว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคเเอดส์หรือติดเชื้อเอชไอวี และได้รับยาต้านไวรัสทุกคนสามารถมีเพศสัมพันธ์กับใครก็ได้โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย

          เรายังยืนยันที่จะเชื่อในสิ่งที่คุณหมอและตำราเรียนสอนเรื่องการใช้ถุงยางอนามัยว่า ถ้าเราไม่มั่นใจในคู่นอนของเรา เวลาจะมีเพศสัมพันธ์กับใครเราควรใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้ง เพราะถุงยางอนามัยไม่ใช่แค่ช่วยเรื่องป้องกันโรคเอดส์อย่างเดียว มันยังช่วยป้องกันโรคที่เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ได้อีกหลายโรค รวมถึงการป้องกันการตั้งครรภ์แบบไม่พึงประสงค์ในผู้หญิงเราอีกด้วย

 

 

สนับสนุนโดย  sagame

Continue Reading