สถานการณ์ในประเทศไทย

สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้เข้มข้นหนัก นายกรัฐมนตรีได้ออกมาแถลงแล้วว่าจะยังไม่มี วัคซีน สำหรับการป้องกันไวรัสตัวใหม่เพิ่ม คุณอนุทิน ออกมาเปิดเผยแล้วดังนั้นใครที่กำลังลุ้นอยู่ว่าไทยเราจะมีวัคซีนตัวใหม่มาเพิ่มในเดือนพฤษภานั้นดูท่าทีตอนนี้รัฐบาลได้ออกมายอมรับแล้วว่ายังไม่มี

ซึ่งก็ได้เป็นการแถลงในช่วงปลายเดือนเมษาดังนั้นสัญญาณคงจะชัดเจนแล้วว่าเรื่องของไวรัสศึกวัคซีนที่คนอยากจะเห็นการนำเข้าวัคซีนตัวใหม่ๆมาเพิ่มนั้นยังไม่มีหวังขณะที่วันนี้ประเทศต่างๆทั่วโลกยังคงเดินหน้าเปิดประเทศกันต่อไปไม่ว่าจะเป็นอังกฤษที่เป็นการเปิดประเทศไปเรียบร้อยแล้วคนอังกฤษเข้าผับเข้าบาร์กินดื่มตามถนนอย่างมีความสุขไปเรียบร้อยแล้วอิสราเอลก็มีการใช้ชีวิตตามปกติยกเลิกข้อห้ามใส่หน้ากากที่สาธารณะ

นอกจากนี้ในเดืนอพฤษภาคนอิสราเอลกำลังจะมีการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวต่างชาติฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเรียบร้อยแล้วนั้นสามารถที่จะเข้าสู่อิสนาเอลได้ดังนั้นอิสราเอลได้แซงหน้าประเทศไทยไปเยอะแล้ว โดยประเทศไทยได้พูดเรื่องนี้มานานเหลือเกินว่าอยากจะเปิดพื้นที่อยากจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแต่ว่าพูดก่อนเขาทำไม่ได้อิสราเอลพูดทีหลังฉีดวัคซีนกันไปเรียบร้อยแล้ว

เนื่องจากนี้ในขณะเดียวกันออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็ได้มีการแถลงข่าวที่หลายคนต่างมองเห็นแล้วก็อิจฉาเพราะว่าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ก็จะมีการเปิดประเทศให้ได้มีคนไปมาหาสู่กันได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้นิวซีแลนด์ในส่วนของผู้ติดเชื้อผู้เสียชีวิตจากการระบาดของโควิดก็ถือว่ามากกว่าประเทศไทย

ดังนั้นประเทศไทยปีที่แล้วพูดโม้เอาไว้เยอะโดยรัฐบาลที่บอกว่าเราติดเชื้อน้อยเราติดเชื้อต่ำมันเกิดอะไรขึ้นทำไมปีนี้มันถึงเปิดประเทศไม่ได้ไร้น้ำยาตรงไหนทำไมทำไม แพ้อิสราเอล แพ้อังกฤษ แพ้ออสเตรเลีย แพ้นิวซีแลนด์ คำตอบคือเราไม่มีวัคซีน

การที่ไม่มีวัคซีนถือว่าเป็นปัญหาทั้งในวิกฤตสุขภาพแล้วิกฤตด้ายเศรษฐกิจในด้านวิกฤตของสุขภาพนั้นทำให้ประเทศไทยในรอบนี้ต้องเจอกับการระบาดของโควิดระลอกใหม่ตัวเลขสู่โซน4หลักอย่างต่อเนื่องโชคดียังไม่ถึงโซน4,000สูงสุดอยู่ที่1,500แต่ก็ถือว่าขนพองสยองเกล้า

เพราะว่าเริ่มมีความกังวลกันอย่างรุนแรงว่าในที่สุด1,300-1,500ที่ได้วนไปมาแบบนี้นั้นจะทำให้ไทยเผชิญปัญหาเตียงผู้ป่วยไม่เพียงพอแล้วก็อาจจะนำไปสู่การพังของระบบสาธารณะสุขได้

ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงสาธารณะสุขยังยืนยันอีกว่าเตียงของเราพอแต่ว่าข้อมูลจากหมอบางส่วนกยังได้ยืนยันว่าถึงจะพอก็พอแบบปริ่มน้ำหากพอมันก็จะมีความเสี่ยงมีความน่ากังวล

 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet

Continue Reading

ครูโรงเรียนในจังหวัดสระบุรี ก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กเหตุเพราะวิ่งเล่นในห้องเรียน

          เกิดเหตุฉาวอีกครั้งสำหรับวงการครูโดยเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสระบุรีที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลเสาไห้เมื่อมีผู้ปกครองคนหนึ่งได้มีการโพสต์ภาพพร้อมกับแชร์เรื่องราวบอกเล่าพฤติกรรมของคุณครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งโดยระบุว่าเธอมีลูกสาวและลูกชายเรียนอยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ซึ่งลูกชายของเธอนั้นเป็นลูกคนโตเรียนอยู่ชั้นป. 6

โดยเธอเล่าเหตุการณ์ว่าเมื่อประมาณวันที่ 24 เดือนกรกฎาคมปีพศ2563 ลูกชายของเธอในวัย 11 ปีถูกคุณครูผู้ชายคนหนึ่งทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บโดยครูนั้นใช้เท้าทั้งเตะและต่อยอีกทั้งยังบีบคอเด็กสาเหตุนั้นก็เพราะว่าลูกชายของเธอนั้นวิ่งเล่นในเวลาเรียน

โดยเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นเมื่อครูที่สอนเป็นประจำของห้องลูกชายนั้นลาป่วยไม่มาโรงเรียนจึงทำให้ครูที่ก่อเหตุทำร้ายเด็กนักเรียนต้องมาสอนแทนซึ่งเด็กๆในห้องเรียนบอกว่าคุณครูได้สั่งให้ทำงานหลังจากนั้นก็ออกจากห้องไปเด็กบางคนก็ทำงานบางคนก็วิ่งเล่นซึ่งหนึ่งในนั้นมีลูกชายของนางสมจิตรผู้ที่ร้องเรียนและแชร์ข้อความใน Facebook นี้ด้วย

โดยลูกชายของเธอได้บอกกับเธอว่ามีเด็กทั้งหมด 3 คนที่วิ่งเล่นกันอยู่เมื่อคุณครูเห็นว่ามีเด็กวิ่งเล่นก็ตรงเข้ามาที่ห้องและเมื่อรู้ว่าเด็กคนไหนวิ่งเล่นบ้างคุณครูก็ทำร้ายร่างกายเด็กทั้ง 3 คนหลังจากทำร้ายตบตีแล้วยังบังคับให้เด็กทั้ง 3 คนนั้นวิดพื้นเป็นการทำโทษอีกด้วยซึ่งเด็กทุกคนในห้องเรียนนั้นสามารถเป็นพยานได้ว่าครูกระทำการเช่นไร

โดยเมื่อเด็กกลับไปถึงบ้านได้เล่าเรื่องราวให้ผู้ปกครองฟังหลังจากนั้นเพียงไม่นานคุณครูก็ได้มีการมาหาผู้ปกครองของเด็กที่บ้านและได้พาเด็กไปทำการตรวจร่างกายพร้อมทั้งขอร้องไม่ให้ผู้ปกครองนั้นเอาผิดตนเองแต่ด้วยนางสมจิตรเห็นลูกของตนเองถูกทำร้ายอย่างหนักจึงไม่สามารถยอมความได้เธอจึงได้นำผลการตรวจร่างกายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจหลังจากนั้นวันรุ่งขึ้นเธอได้เดินทางไปพูดคุยเรื่องดังกล่าวกับท่านผู้อำนวยการโรงเรียน

ซึ่งในวันที่เธอไปนั้นเธอยังพบว่าครูที่ก่อเหตุยังคงมาโรงเรียนและสอนเด็กนักเรียนตามปกติเธอจึงคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียนว่าเธอจะให้ลูกสาวของเธอนั้นหยุดเกณฑ์ชั่วคราวก่อนจนกว่าครูที่ก่อเหตุนั้นจะถูกย้ายออกไปเนื่องจากว่าครูผู้ก่อเหตุนั้นเป็นคุณครูประจำชั้นของลูกสาวของเธอเธอจึงเกรงว่าลูกสาวของเธอนั้น

จะไม่ปลอดภัยอย่างไรก็ตามครูผู้ก่อเหตุผลดังกล่าวได้มีการส่งข้อความมาหาเธอและร้องขอให้เธอนั้นไม่เอาผิดแต่เธอยืนยันว่าเธอต้องการที่จะดำเนินคดีจนถึงที่สุดเพราะคุณครูท่านนี้เคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียนมาแล้วแต่ครั้งนี้ก็ยังมาทำอีกดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการให้คุณครูท่านนี้สอนในโรงเรียนนี้อีกต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.    sa casino ฟรี300

Continue Reading

ถึงเวลาที่ต้องให้คนป่วยทางจิตแยกตัวไปรักษาตัวออกห่างจากสังคมได้แล้วหรือยัง 

 

          หากใครเคยติดตามข่าวสารในแต่ละวันจะรู้ว่าข่าวส่วนใหญ่นั้นจะเกิดจากการที่มีคนถูกฆ่าตายซึ่งการฆ่านั้นก็มีหลายสาเหตุทั้งเป็นสาเหตุของผู้ผลิตฆ่ากันเองหรือแม้แต่สาเหตุเกิดจากความหึงหวงและอีก 1 สาเหตุที่เป็นสาเหตุหลักๆในช่วงนี้ที่เรามักจะได้ยินกันเลยนั่นก็คือฆาตกรนั้นมักมีปัญหาเรื่องของสุขภาพจิตหรือที่เรารู้กันดีว่าเขานั้นมีปัญหาเป็นพวกมีอาการทางจิตหรือโรคจิตนั่นเอง

ซึ่งคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เวลาที่เราอ่านข่าวสารหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้แล้วญาติของผู้ต้องหาก็มักจะบอกว่าผู้ต้องหานั้นมีอาการป่วยทางจิตเคยพาไปรักษาแล้วแต่ก็กลับมามีอาการอีกหรือบางคนก็จะบอกว่ากำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรักษาซึ่งมีการกินยาอยู่ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้นน่าจะเกิดจากการที่ผู้ป่วยนั้นลืมกินยาจึงทำให้อาการกำเริบ

ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้วแต่ถ้ามีการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ป่วยโรคจิตจริงๆอยู่ระหว่างการรักษาจริงๆผู้ต้องหาดังกล่าวก็มักจะหลุดคดีไม่ถูกจับกุมเข้าคุกแต่จะถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลรักษาอาการโรคจิตแทนและแน่นอนว่ารักษาได้ไม่นานก็จะถูกปล่อยตัวออกมาเพื่อให้มารักษาต่อที่บ้านด้วยการให้ทานยาเอง

ซึ่งจะเวียนวนอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆและคนที่เป็นโรคจิตก็มักจะลืมกินยาหรือขาดการกินยาทำให้มาก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเวลาได้แล้วหรือยังที่เราควรจะต้องมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของการแยกกลุ่มผู้มีปัญหาทางจิตออกจากสังคมคนที่มีปัญหาทางจิตไม่ควรที่จะอยู่ในสังคมร่วมกับคนปกติเพราะกลุ่มบุคคลเหล่านี้ถือว่าเป็นบุคคลอันตรายยิ่งถ้าหากว่าพวกเขาไม่ได้ทานยาแล้วก็จะไม่สามารถควบคุมอาการได้และก่อเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งญาติพี่น้องของพวกเขาเองก็ไม่สามารถที่จะดูแลหรือควบคุมเขาได้

ดังนั้นน่าจะมีมาตรการที่ออกมาเกี่ยวกับเรื่องของการดูแลผู้ป่วยทางจิตให้ชัดเจนว่าควรจะต้องมีการส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลจนกว่าจะหายดีไม่ควรที่จะปล่อยให้คนที่มีปัญหาอาการทางจิตเหล่านี้ซึ่งญาติเองก็รู้ดีว่าอาการยังไม่ดีขึ้นให้อยู่รวมพลกับบุคคลอื่นเพราะมันมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้นได้เนื่องจากว่าเวลาที่อาการของผู้ป่วยกำเริบนั้นพวกเขามักจะไม่รู้ตัวเองและคนที่อยู่ใกล้ชิดกับพวกเขามากที่สุดก็คือกลุ่มคนที่จะได้รับอันตรายจากกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาอาการทางจิตแบบนี้ยังข่าวล่าสุดก็เป็นแฟนหนุ่มฆ่าแฟนสาว

โดยครั้งแรกสรุปออกมาว่าฆ่ากันตายเพราะเกิดจากอาการหึงหวงแต่สุดท้ายก็ตรวจสอบพบว่าฝ่ายชายนั้นมีการรักษาอาการทางจิตอยู่ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสาเหตุเพราะอาการกำเริบถึงได้ฆ่าแฟนสาวเสียชีวิตและสุดท้ายก็ถูกส่งตัวไปรักษาอาการที่โรงพยาบาลแทนที่จะถูกจับเข้าคุกดังนั้นเราจึงควรเรียกร้องไห้กลุ่มคนที่ป่วยด้วยอาการทางจิตเหล่านี้ถูกแยกตัวออกจากสังคมจะเป็นการดีที่สุดเพราะจะปลอดภัยกับคนที่มีอาการปกตินั่นเอง

 

สนับสนุนโดย.  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

Continue Reading

ปัญหาเพื่อนบ้านทะเลาะกันเพราะหมา

           เช็คได้ว่าเป็นปัญหาเกือบทุกหมู่บ้านเลยก็ได้เกี่ยวกับเรื่องของหาเส้นทางบ้านเลี้ยงบางบ้านอาจจะไม่ได้ชอบเลี้ยงสุนัขสักเท่าไหร่สู้ล่าสุดได้มีคนใช้ Facebook รายนึงได้มีการโพสต์คลิป ตอนที่ตัวเองกำลังตะโกนด่าเพื่อนบ้านส่วนสาเหตุที่ต้องตะโกนด่าเพื่อนบ้านนั้นก็เพราะว่าสุนัขของผู้หญิงที่โพสต์ Facebook นั้นมักจะส่งเสียงเห่าอยู่เป็นประจำทำให้เพื่อนบ้านบริเวณใกล้เคียงนั้น

ไม่พอใจกับเสียงสุนัขที่มีการเห่าโดยเธอมีการโพสต์ข้อความใน Facebook ระบุว่าเพื่อนบ้านของเธอนั้นมีปัญหากับการที่เธอเลี้ยงสุนัขซึ่งเธอเองก็เลี้ยงสุนัขไว้ภายในบ้านของเธอเองแต่เพื่อนบ้านของเธอก็ยังชอบมาต่อว่าและเคยทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขนาดที่ว่าเพื่อนบ้านมาต่อยหน้าแถมยังมีการข่มขู่ว่าจะเอาปืนมายิงสุนัขของเธออีกด้วยซึ่งหลังจากที่คลิปวีดีโอและข้อความที่เธอเขียนนี้ถูกแชร์กันออกไปก็มีนักข่าวลงไปสัมภาษณ์เธอถึงบ้านโดยระบุว่าคนที่มีการโพสต์คลิปใน Facebook

ดังกล่าวนั้นชื่อว่านางสาวอรณี เธอบอกกับนักข่าวว่าสาเหตุที่เธอได้มีการโพสต์ Facebook นั้นก็เพราะว่าเธอมีปัญหากับเพื่อนบ้านซึ่งเป็นบ้านของสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งเธอมักจะทะเลาะกับเพื่อนบ้านหลังนี้อยู่เป็นประจำโดยสามีภรรยาคู่นี้มีการเช่าหอพักซึ่งตัวหอพักของสามีภรรยาคู่นี้ดันมาสร้างอยู่ติดกับบ้านของเธอ

ซึ่งบ้านของเธอนั้นมีการเลี้ยงหมาตัวเล็กพันธุ์ชิสุเอาไว้จำนวน 2 ตัวเธอรู้ไหมว่าสามีภรรยาคู่นี้ไม่ชอบหมาเวลาหมาของเธอเห่าสามีภรรยาคู่นี้ก็มักจะตะโกนด่าเข้ามาในบ้านของเธอไม่พอใจที่หมาของเธอนั้นเห่าส่งเสียงดังทำให้เธอแล้วก็สามีภรรยาคู่นี้ทะเลาะกันเป็นประจำเกือบทุกวันซึ่งในคลิปที่เธอมีโพสต์ลงใน Facebook นั้นเป็นการทะเลาะกันครั้งล่าสุดโดยเพิ่งทะเลาะกันไปเมื่อวันที่ 21 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 นี่เองช่วงเวลาที่พวกเขาทะเลาะกันนั้นก็เป็นช่วงเวลาประมาณทุ่มหนึ่ง

ซึ่งตอนนั้นน้องผู้ชายได้มีการโยนไม้เข้ามาในบ้านซึ่งไม้นั้นก็ไปโดนไก่ที่เธอเลี้ยงเอาไว้ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเบื่อและรำคาญไม่อยากจะทะเลาะด้วยแต่ผ่านไปไม่ถึง 10 นาทีเพราะเธอออกไปตลาดสามีภรรยาคู่นั้นก็ตะโกนบ่นเรื่องหมาของเธอเห่าเสียงดังอีกและยังมีการพูดด้วยคำพูดที่หยาบคายทำให้เธอทนไม่ไหวจึงได้มีการตะโกนด่าทอกลับไป

และจึงอัดคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเธอยังกล่าวอีกว่าหลังจากที่ตะโกนด่าทอกันแล้วสามีของเธอและสามีของบ้านห้องเช่านั้นก็ได้ออกมาทะเลาะแล้วต่อยกันแต่เธอไม่ได้ถ่ายคลิปเอาไว้เท่านั้นเองซึ่งตอนนี้เธอได้มีการไปแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจเรียบร้อยแล้ว 

         สำหรับปัญหาเรื่องของเพื่อนบ้านนั้นเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกยิ่งบ้านไหนมีการเลี้ยงสุนัขแล้วปล่อยให้ร้องส่งเสียงดังก็สร้างความรำคาญให้กับเพื่อนบ้านได้เหมือนกันเพราะจริงๆแล้วหากคุณจะเลี้ยงสุนัขคุณก็ต้องมีการดูแลสุนัขของคุณให้เป็นอย่างดีไม่ใช่ไปส่งเสียงรบกวนเพื่อนบ้านให้เกิดความรำคาญได้

 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย.    เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100

Continue Reading