ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 25 ปี

ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงต่ำ อัตราแลกเปลี่ยนเงินไทยและเงินเยนของญี่ปุ่นนั้น ซึ่งทั้งสองประเทศนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนในเรื่องของเงินตราและมีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันอยู่ตลอด และสำหรับคนไทยนั้นก็จะมีการเดินทางไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำและมีจำนวนที่ค่อนข้างเยอะทีเดียว

โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์นั้นปกติเพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่น่าเดินทางไปท่องเที่ยวรวมถึงในเรื่องวัฒนธรรมและอาหารการกินด้วย ซึ่งในช่วงเดือนกลางเดือนเมษายน 2022 นั้นเงินเยนได้อ่อนค่าลงและเป็นการอ่อนค่าลงในรอบ 25 ปี ซึ่งการที่ค่าเงินเยนนั้นสามารถอ่อนตัวลงได้ขนาดนี้นั้นแน่นอนว่าก็ต้องมีปัจจัยหลากหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องและทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง

ค่าเงินเยนมีการออ่อนตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับค่าเงินบาทของไทย ถ้าหากมองแล้วนั้นในช่วงนี้ค่าเงินบาทนั้นไม่ได้มีการเคลื่อนไหวไปมากแต่อย่างใด แต่สำหรับค่าเงินเยนนั้นอ่อนค่าอย่างเห็นได้ชัดและเมื่อเทียบกับตัวเงินอย่างดอลล่าสหรัฐ สำหรับปัจจัยหลักๆที่สามารถทำให้ค่าเงินเยนนั้นสามารถอ่อนค่าลงได้ขนาดนี้นั้นก็มาจาก เรื่องของความแตกต่างระหว่างนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐอมเมริกาและธนาคารกลางของญี่ปุ่น ซึ่งเห็นได้ว่ามีความแต่งต่างกันโดยสิ้นเชิงซึ่งค่าเงินนั้นไปคนละทิศละทางกันเลยนั่นเอง

เนื่องด้วยธนาคารกลางของอเมริกานั้นมีการใช้นโยบายที่มีความเข้มงวดมากขึ้นแต่ธนาคารกลางของญี่ปุ่นนั้นมีการใช้นโยบายที่มีการผ่อนคลายอยู่ ซึ่งสิ่งนี้เองจึงทำให้ค่าเงิน ดอลล่าและค่าเงินเยนนั้นอ่อนค่าลงมา

แบ่งได้ว่าเมื่อค่าเงินดอลล่านั้นมีการปรับตัวและแข็งค่ามากขึ้น ก็จะทำให้ค่าเงินเยนนั้นอ่อนค่าลงไป โดยในช่วงนี้นั้นเงินดอลล่ามีความนิยมในการถือไว้ เพื่อเป็นสินทรัพย์เพราะในช่วงนั้นก็มีการเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินดอลล่านั้นมีความแข็งค่าอยู่ รวมถึงนโยบาลตลาดกลางของอเมริกาด้วย

อีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญก็คือความแต่งต่างระหว่าง Bond Yield 10 ปี ของสหรัฐและญี่ปุ่น สำหรับสหรัฐนั้นมีการปรับขึ้นเยอะมาก เพราะตลาดนั้นมีการรับรู้ว่าธนาคารกลางของสหรัฐนั้นมีการเร่งขึ้นดอกเบี้ยและงบดุลต่างๆ ส่วนญี่ปุ่นนั้นยังคงมีการควบคุม จึงทำให้ Bond Yield 10 ปีของเขานั้นไม่ได้มีการปรับขึ้นไปสูงมาก ซึ่งก็เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการอ่อนค่าของเงินเยนนั่นเอง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเงินเยนจะอ่อนค่าและต่ำสุดในรอบ 25 ปีด้วยราคาเงินเยนที่มีมูลค่า 0.026 แต่แนวโน้มที่เงินเยนนั้นจะอ่อนค่าลงอีกก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลกและธนาคารกลางอน่างสหรัฐนั่นเอง ว่าจะมีแนวโน้มและจัดการให้เงินดอลล่านั้นแข็งค่ามากน้อยเพียงใด

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝากเงิน ออโต้

Continue Reading

เด็กหญิงวัย 8 ขวบชาวอินโดนีเซีย ถูกจระเข้ลากไปกิน ชาวบ้านช็อค เห็นหัวเด็กโผล่ออกมาจากปากจระเข้ 

          ชาวอินโดนีเซีย ถูกจระเข้ลากไปกิน  ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีข่าวเกี่ยวกับจระเข้เยอะมากๆโดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้มีข่าวเรื่องของคนอินโดนีเซียถูกจระเข้กัดและถูกลากลงไปกินในน้ำมากมายหลายศพ   ซึ่งสาเหตุนั้นก็เพราะว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศอินโดนีเซียนั้นเป็นแม่น้ำและทะเล

ซึ่งจะมีสัตว์เลื้อยคลานอย่างจระเข้อาศัยอยู่ไม่ว่าจะเป็นจระเข้น้ำเค็มหรือจระเข้น้ำจืดก็ตามอย่างไรก็ตามถ้าดูจากข้อมูลของประเทศอินโดนีเซียแล้วจะพบว่าประเทศนี้มีจระเข้มากถึง 14 สายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ของเขตประเทศอินโดนีเซีย

        ทำให้ไม่ว่าประชากรจะอาศัยอยู่ตรงบริเวณไหนก็มักจะเจอปัญหาจระเข้ชุกชุมและสร้างอันตรายให้กับชาวบ้านและเมื่อวันที่ 15 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2564  ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีข่าวใหญ่ ชวนช็อกอีกครั้งหนึ่ง เมื่อมีการเปิดเผยออกมาจากสำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซียว่าในวันที่ 15 เดือนตุลาคมนั้นเกิดเหตุการณ์ที่ หมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในเขต เตลุุกคาเยลี   ซึ่งอยู่บนเกาะบูรู  

         โดยเหตุการณ์จนช็อคที่ว่านั้นก็คือเหตุการณ์ที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุเพียงแค่ 8 ขวบเท่านั้นเธอถูกจระเข้ขนาดใหญ่โผล่มาลากลงไปในน้ำเพื่อทำลายและกัดกินร่างกายของเธอซึ่งในขณะนั้นเธอกำลังเล่นน้ำอยู่กับเพื่อนๆ อย่างไรก็ตามเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์ได้รีบไปแจ้งชาวบ้านให้มาช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันการณ์เมื่อชาวบ้านช่วยกันออกตามหาแล้วเจอจระเข้ตัวดังกล่าวก็ได้ใช้หอบแพงไปที่จระเข้จนถึงแก่ความตาย

         ซึ่งเหตุการณ์ที่ทางชาวบ้านตกใจมากก็เพราะว่าในปากของจระเข้นั้นยังมีศีรษะของเด็กหญิงอายุ 8 ขวบอยู่หลังจากที่จระเข้เสียชีวิตแล้วชาวบ้านก็ช่วยกันผ่าท้องจระเข้เพื่อหวังเอาร่างของเด็กหญิงที่เสียชีวิตออกมาแต่ปรากฏว่าไม่พบร่างของเด็กหญิงดังนั้นชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันออกตามหาร่างของเด็กหญิงวัย 8 ขวบอีกทีหนึ่งซึ่งกว่าจะพบนั้นก็ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ถึง 2 วันเลยทีเดียว  

           สำหรับประเทศอินโดนีเซียนั้นข่าวเรื่องของจระเข้ออกอาละวาดกัดกินทำร้ายผู้คนนั้นมีให้เห็นอยู่เป็นประจำจนอาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องที่คนอินโดนีเซียนั้นคุ้นชินกันเป็นอย่างดีเพียงแต่ว่าจำเป็นที่จะต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางจระเข้เหล่านี้ให้ได้และมองให้กลายเป็นเรื่องปกติและระมัดระวังการเล่นน้ำเพียงเท่านั้น 

      เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สำหรับคนในประเทศอื่นอาจจะมองเห็นว่าเป็นเรื่องที่สยดสยองน่ากลัวแต่สำหรับคนประเทศอินโดนีเซียแล้วพวกเขามองว่ามันเป็นเรื่องปกติเพราะพวกเขารู้ดีกันอยู่แล้วว่าในพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่นี้เต็มไปด้วยจระเข้น้ำเค็มเป็นจำนวนมาก  และบ่อยครั้งที่มักจะมีข่าวที่ชาวบ้านถูกจระเข้ทำร้าย   

 

สนับสนุนโดย.    ufabet auto

Continue Reading

สาวแชร์ ประสบการณ์ไปเที่ยวพักแคมป์เจอเป็นขึ้นราห้องน้ำสกปรก 

      พักแคมป์เจอเป็นขึ้นรา  มีหญิงสาวรายหนึ่งเธอได้ออกมารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่เธอไปเที่ยวโดยระบุว่าเทอมนั้นไม่เคยเที่ยวแบบค้างพักแคมป์เลย  เธอจึงได้ตัดสินใจออกไปเที่ยวแบบสายแคมป์เป็นครั้งแรก

ซึ่งแน่นอนว่าเธอก็ต้องเจอกับประสบการณ์ที่หน้าสวยๆสำหรับเธอเป็นอย่างมาก  หญิงสาวรายนี้มีการระบุว่าเธอได้ขับรถไปยังจุดที่เธอนั้นได้มีการจองเต็นท์เอาไว้ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

            อย่างไรก็ตามเมื่อเธอไปถึงพนักงานได้มีการนำเต็นท์มาให้กับเธอซึ่งเธอได้มีการทำเรื่องเช่าเอาไว้เรียบร้อยแล้วแต่เมื่อเธอได้มีการกางเต็นท์ปรากฏว่าเป็นของเธอนั้นมีเชื้อราขึ้นเต็มไปหมดซึ่งเป็นภาพที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมากโดยหญิงสาวรายนี้ยังได้มีการถ่ายรูปนำมาแชร์ในโลกออนไลน์ด้วย

          นอกจากปัญหาเรื่องของเลนส์ขึ้นราแล้วหญิงสาวรายนี้ยังบอกด้วยว่าเธอยังมีปัญหาเรื่องของห้องน้ำที่ทางสถานที่ท่องเที่ยวได้จัดเอาไว้ให้ซึ่งห้องน้ำนั้นค่อนข้างที่จะสกปรกเป็นอย่างมากอย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้สรุปว่าในวันดังกล่าวนั้นเธอตัดสินใจที่จะไม่กางเต็นท์และไม่เข้าแคมป์ไม่เที่ยวแล้วและเธอตัดสินใจขับรถกลับบ้านถึงแม้ว่าเธอจะใช้ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับถึง 10 ชั่วโมงก็ตาม

       สำหรับการรีวิวการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์กางเต็นท์แบบสืบสยองนี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวรายนี้อยากจะไปเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่และเธออยากทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนๆจึงชักชวนกันไปเที่ยวแบบค้างคืนโดยการเต็นท์นอนกันซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 3 เดือนมกราคมปีพศ. 2565    หญิงสาวรายนี้ไปค้างคืนหรือไปท่องเที่ยวนั้นก็คือสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน  ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะกางเต็นท์นอนพักภายในกระโจมริมแม่น้ำได้และราคาที่พักมันก็ไม่สูงมากนัก

      โดยเธอเลือกจองที่พักเป็นแบบเต็นท์นอนซึ่งเต็นท์นั้นจะนอนได้ประมาณ 2-3 คนอย่างไรก็ตามหญิงสาวรายนี้ได้มีการจองไปทั้งหมด 2 หลังด้วยกัน  เมื่อทุกคนที่เดินทางไปเที่ยวเห็นสภาพดินที่มีเชื้อราจึงได้มีการติดต่อไปยังที่พักเพื่อคุยกับทางพนักงานเพื่อทำการขอเปลี่ยนเต็นท์แต่ถ้าพนักงานพูดจาไม่สุภาพ

         อย่างไรก็ตามก่อนที่เรื่องราวจะบานปลายก็ได้มีพนักงานอีกคนหนึ่งมาทำการเคลียร์แทนซึ่งพนักงานคนแรกก็ได้เดินหนีเข้าครัวไปและพนักงานคนใหม่นั้นก็จะมีการเปลี่ยนเต็นท์ให้กับครอบครัวของเธอแต่เมื่อเข้าไปทำการสำรวจเต็นท์ใหม่ก็พบว่าก็ยังมีสภาพไม่ต่างจากเป็นอันเดิมเพราะเชื้อราขึ้นเต็มไปหมด

          นอกจากนี้ห้องน้ำที่จะให้นักท่องเที่ยวใช้ก็เป็นห้องน้ำรวมทำให้ห้องน้ำนั้นค่อนข้างสกปรกและที่สำคัญตอนที่พวกเธอกำลังจะไปเข้าห้องน้ำปรากฏว่าน้ำไม่ไหลทำให้เธอนั้นตัดสินใจออกจากที่พักกับบ้านทั้งที่ขนาดนั้นเป็นช่วงเวลา 8:30 น แล้วและหลังจากกลับมาถึงที่พักเธอจึงได้มีการรีวิวแชร์ประสบการณ์นี้ลงผ่านทาง facebook 

 

สนับสนุนโดย.    ufabet ฝาก-ถอน เอง

Continue Reading