สานฝันน้องแจ๋วแหวว อุ๊บ วิริยะ สอนเดินแบบฟรี

  หากยังจำกันได้เมื่อว่าทางสำนักข่าวช่องอัมรินนท์ได้มีการนำเสนอข่าวหนึ่งไปเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ขายพวกมาลัยช่วยแม่ที่แยกพระราม 9 แล้วมีการโพสต์ท่าเหมือนนางแบบจนมีคนแอบถ่ายรูปแล้วนำมาแชร์ต่อต่อกันเป็นจำนวนมากจนเป็นข่าวโด่งดัง 

ซึ่งเมื่อวานทางนักข่าวได้ไปเจอกับยายของน้องแจ๋วแหวว น้องคนที่ขายพวงมาลัยแล้วโพสต์ท่านางแบบจนเป็นข่าวดังข้ามคืน ยายบอกว่าน้องเป็นคนขยันเรียน และมาช่วยครอบครัวขายมาลัยเอาเงินไว้ไปเรียนหนังสือ เมื่อวานยายบอกว่าน้องอยากเป็นหมอ อยากเป็นนักแสดง 

แต่น้องเป็นคนขี้อาย และเมื่อข่าวออกเมื่อคืน คุณ อุ๊บ วิริยะ นักปั้นมือทองบอกว่าอยากเจอมาก จนวันนี้นักข่าวได้พาไปเจอกับน้องแจ๋วแหวว และคุณอุ๊บ วิริยะ ได้สอนน้องเดินแบบเพราะอยากช่วยน้องให้ทำในสิ่งที่น้องชอบ เพราะคุณอุ๊บ วิริยะ มีสถานบันสอนเดินแบบ จึงอยากสานฝันให้น้องไปเรียนเดินแบบฟรี 

ซึ่งเรื่องนี้พอมีคนรู้ว่าคุณ อุ๊บ วิริยะจะมาช่วยสอนเด็กเดินแบบก็มีกระแสดราม่าออกมาว่าจะเกาะกระแสเด็กดัง ซึ่งคุณ อุ๊บก็บอกแต่เพียงว่า หลายคนก็หลายความคิด ใครจะว่าอย่างไรก็จะไม่สนใจ เพราะตัวเองรู้ว่ากำลังทำอะไร เพราะเป็นความตั้งใจของตัวเองอยู่แล้วว่าอยากจะช่วยสังคม ดังนั้นพอเห็นว่าเด็กมีความสามารถและมีความตั้งใจดีที่อยากจะเรียนเดินแบบ เพื่อจะได้มีรายได้ไปช่วยเหลือครอบครัวในอนาคต ทำให้คุณ อุ๊บ อยากจะช่วยเหลือ เพราะไม่ได้เป็นการนำเงินไปช่วยแต่เป็นการช่วยสานฝันให้น้องได้ทำตามสิ่งที่ฝันเอาไว้ได้สำเร็จ

ซึ่งในครั้งนี้คุณ อุ๊บยินดีให้น้องเรียนฟรี และไม่ได้บังคับน้องว่าจะเรียนหรือไม่เรียนก็ได้ และถ้าเรียนก็สามารถเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนร้องเพลงหรือเรียนเดินแบบก็ได้  ซึ่งหลายคนทีรู้จักกับเด็กแจ๋วแหวว ต่างก็ออกมาบอกว่าเด็กน้อยเป็นคนนิสัยดี ชอบออกมาช่วยแม่ทำงาน ที่มีอาชีพขายพวงมาลัย และน้องเป็นคนรักสวยรักงาม จะต้องแต่งตัวให้สวยก่อนจึงจะสามารถออกขายพวกมาลัยได้ ซึ่งน้องเองก็เคยบอกกับแม่ว่าอยากจะเป็นนางแบบ น้องมีความสุขในการเดินโพสต์ท่าแต่งตัวสวยสวย ซึ่งการที่คุณ อุ๊บ เข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องทีน่ายินดีเป็นอย่างมาก 

         สำหรับเรื่องของคุณ อุ๊บช่วยเหลือเด็กในการสานฝันให้เรียนฟรีนั้นถือว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ดี เราจังไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เขาทำความดี เราควรจะส่งเสริมและช่วยสนับสนุนจะดีกว่า

Continue Reading

นักท่องเที่ยวที่หาดนางทองผวาหนัก

นักท่องเที่ยวที่หาดนางทองผวาหนัก หลังมีนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำที่หาดแล้วถูกปลากัดขา

      กำลังเป็นกระแสให้มีการพูดถึงการอย่างกว้างขวางกับข่าวที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนที่หาดนางทอง ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัดพังงา ได้รับบาดเจ็บจากการถูกปลาที่มีขนาดลำตัวใหญ่มากกัดเข้าที่ขาจนมีแผลเหวอะ ซึ่งได้มีการนำนักท่องเที่ยวไปทำแผลที่โรงพยาบาลแล้ว และเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ต่างก็พากันลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นและจากการตรวจสอบบาดแผลและสถานที่กันเรียบร้อยแล้วมีการคาดการกันว่าปลาดังกล่าวน่าจะเป็นปลาฉลามหัวบาตร ที่ตอนนี้มีตามแนวชายหาดค่อนข้างบ่อย

ซึ่งทางด้าน ดร. ธรณ์  ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุมีการสันนิฐานว่าฉลามหัวบาตรน่าจะเข้าใจผิดคิดว่านักท่องเที่ยวจะเข้าไปทำร้ายจึงมีการจู่โจมเข้าทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเป็นแผลเหวอะหวะ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ถูกกัดไม่ใช่คนไทยแต่เป็นคนประเทศเยอรมันที่เดินทางมาท่องเที่ยวในเมืองไทย

ซึ่งเป็นผู้ชายอายุรวม 75 ปี โดยเขาเล่าว่าเขาเดินทางมาพักผ่อนที่เมืองไทยพร้อมกับภรรยาแล้วก็มาเที่ยวที่หาดนางทองนี้เพื่อเล่นน้ำกับคนในครอบครัวซึ่งในวันเกิดเหตุเขาเล่นน้ำห่างจากชายฝั่งประมาณ 6-7 เมตรเท่านั้น ซึ่งในตอนที่เขาเล่นน้ำอยู่ ตัวเขาเองก็รู้สึกว่ามีปลาตัวใหญ่ว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆแต่เขาไม่ได้สนใจ จนเมื่อมันว่ายเข้ามาหาแล้วทำการกัดที่ขาด จนมีแผลฉีกขาดตามที่เป็นข่าว ซึ่งจากการดูบาดแผลความยาวของแผลขนาด 20 เซนติเมตร ซึ่งเมื่อหมอตรวจสอบก็พบว่าเป็นเอ็นขาขวาฉีก ทางหมอและพยาบาลได้ทำการรักษาและเย็บแผลให้เรียบร้อยแล้ว

และตอนนี้ก็รอกพักดูอาการก่อนหากแผลไม่อักเสบก็สามารถกลับบ้านได้แล้ว ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่กำลังพยายามออกค้นหาว่าเป็นปลาชนิดไหนกันแน่ที่เข้ามากัดนักท่องเที่ยว จะใช่ฉลามหัวบาตรจริงหรือไม่คงต้องการหลักฐานให้ได้ก่อนซึ่งตอนนี้ทางนายอำเภอตะกั่วป่าได้มีการฝากเจ้าหน้าที่รีสอร์ทและตามโรงแรมต่างๆให้เตือนให้นักท่องเทียวระมัดระวังในการเล่นน้ำในช่วงนี้เพราะเกรงว่าจะมีเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมเกิดขึ้นอีก แต่อย่างไรก็ดีทางนายอำเภอได้กำชับกับเจ้าหน้าที่ของทางรีสอร์ทและโรงแรมเอาไว้แล้วว่า ให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์อย่าให้นักท่องเที่ยวตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

เพราะหากแผลที่เกิดขึ้น เกิดมาจากปลาฉลามหัวบาตรจริงก็ไม่ใช่สัตว์ที่ดุร้ายอะไร มันอาจจะแค่เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาหาร เพราะน้ำไม่ใสทำให้ปลาอาจจะเห็นไม่ค่อยชัด เพราะโดยปกติแล้วปลาฉลาดหัวบาตรสัตว์ไม่ดุร้าย

 

สนับสนุนโดย  ทดลองเล่น gclub

Continue Reading

ข่าวที่น่าสนใจในวันนี้

สังคมรุมประณามกะเทยนางรำที่พัทยาเครียดจนคิดฆ่าตัวตาย

ก่อนหน้านี้มีดราม่าหนักมากเกี่ยวกับเรื่องของกะเทยนางรำคนหนึ่งที่แต่งตัวเป็นนางรำมายืนตามท้องถนนที่พัทยาเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปและเรียกเก็บเงินแล้วมีผู้หญิงสาวคนหนึ่งมาถ่ายรูปแต่ไม่ยอมจ่ายตังค์ทำให้กะเทยนางงามคนหนึ่งกล่าวเข้ามาต่อว่าคนที่ถ่ายรูปก็ไม่ให้ถ่ายเพราะว่าไม่ได้เสียตังค์ซื้อหญิงสาวคนดังกล่าวได้นำคลิปวิดีโอที่ถ่ายตอนที่ถูกะเทยนางรำต่อว่าเอามาโพสต์ลงโซเชียลทำให้หลายคนที่ได้เห็นคลิปดังกล่าวเข้ามาต่อว่าและด่าทอรวมถึงสาปแช่งกะเทย

คนหนึ่งกล่าวทำให้กะเทยคนหนึ่งกล่าวปัจจุบันแต่เลิกแต่งตัวเป็นกะเทยแล้วไม่ไปทำงานที่เดิมแล้วเค้าไม่สามารถไปทำงานกล้าสู้หน้าคนอื่นก็ได้จนกะเทยคนนั้นกล่าวได้ออกมาบอกว่ารู้สึกเสียใจถึงขนาดคิดสั้นเลยทีเดียวแต่เค้าก็ยังเอามาบอกว่าตอนนี้เค้าตัดสินใจใหม่แล้วต่อไปนี้เค้าจะแต่งตัวเป็นผู้ชายแล้วหางานทำแบบใหม่

ซึ่งตอนนี้เค้าได้ไปขอร้อง เจ้านายเก่าของเค้าก็คือคนหนุ่มจีสตาร์ว่าขอกลับมาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟได้หรือไม่โดยเขาได้เล่าปัญหาของเขาให้คุณหนุ่มจีสตาร์ฟังซึ่งคุณจิตราก็ใจดีแล้วก็กลับเข้ามาทำงานเพราะให้เหตุผลว่าคนเราเมื่อทำผิดแล้วสามารถกับตัวกับใจได้คุณที่สาต้องการให้โอกาสคนซึ่งกะเทยนางรำชายคนนั้นกล่าวได้ออกมาด่าว่าด้วยตัวเค้าเองต้องทำมาหากินเลี้ยงตัวเองเพราะเค้าเป็นเด็กกำพร้าดังนั้นทุกช่องทางที่เค้าทำจึงต้องการทำเพื่อให้ได้เงินมาเลี้ยงตัวเองเค้าถึงแต่งตัวออกมา

เพื่อให้คนได้ถ่ายรูปแล้วเค้าจะได้ต่างจากการถ่ายรูปของลูกค้าแต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเขาไม่สามารถทำงานแบบเดิมได้อีกแล้วเค้าจึงต้องหางานใหม่เค้าอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่กับกินฝากของน้องทุกคน  ให้ช่วยหยุดต่อญาติหรือซ้ำเติมเขาได้แล้วเค้ากาดสังคมสักครั้งครับเพื่อที่เขาจะได้มีชีวิตใหม่แล้ว

ข่าวนี้ถ้าตามรูปการแล้วเค้าแต่งตัวออกมาเพื่อทำมาหากินแต่งตัวเพื่อให้คนถ่ายรูปแล้วได้ตังค์จากการถ่ายรูปดังนั้นคนที่คิดจะถ่ายรูปเขาพูดผลให้ตังค์เค้าก่อนที่จะถ่ายรูปก็ถูกต้องอยู่แล้วมันคืออาชีพของเขาอันที่จริงไม่ควรไปว่าเค้าด้วยซ้ำอยากให้คนไทยมองปัญหาหลายหลายมุมไม่ใช่คนแรกพูดออกมาว่ายังไงก็เออออตามเขาแล้วด่าอีกคนหนึ่งแบบสาดเสียเทเสียทำให้ชิงทุนของแถมหมดอนาคตซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเลยและเมื่อเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นแล้วก็ควรเลิกซ้ำเติมเขาได้แล้ว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  คาสิโนออนไลน์ฝากไม่มีขั้นต่ำ

Continue Reading

ข่าวสังคมทั่วไป

แบบนี้ต้องประจาน โดนเพื่อนสนิทแย่งสามี เมียหลวงโคตรสะใจใช้ปากกาเมจิกเขียนด่าเต็มรถ

ปัญหาที่ไม่เคยแก้ไขได้เลยสำหรับเรื่องการนอกใจไปมีคนอื่น

ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงนอกใจไปมีชู้หรือผู้ชายนอกใจไปมีชู้ คนที่ถูกกระทำก็คือคนที่ต้องเจ็บปวดที่สุด ซึ่งมีข่าวรายงานมาล่าสุดพบว่า มีเฟสบุ๊กของผู้หญิงคนหนึ่งได้โพสต์ภาพรูปรถกระบะสีขาว แต่มีการนำปากกาเมจิกมาเขียนตัวหนังสือรอบคันรถจนแทบไม่เห็นพื้นที่ว่าง โดยส่วนใหญ่เป็นคำด่าซึ่งเป็นข้อความหยาบคายโดยด่าฝ่ายชายที่เป็นสามีของตัวเอง และฝ่ายหญิงที่เป็นเพื่อนสนิท

ซึ่งทั้งสองคนแอบคบชู้กันโดยที่ฝ่ายชายทิ้งครอบครัวไม่สนใจลูกสนใจเมียตัวเอง โดยเธอยังระบุอีกว่าต่อไปนี้เธอจะต่อสู้เพื่อตัวเองและลูก เธอจะต้องเข็มแข็งเพื่อตัวของเธอเองและลูกของเธอ 

ปัญหาการคบชู้เป็นปัญหาที่มีมานาน

และเป็นปัญหาที่เกิดทั้งกับผู้ชายและผู้หญิง ปัญหาที่สังคมไทยในปัจจุบันคนในสังคมมีศีลธรรมที่เสื่อมลง ไม่สนใจว่าตัวเองจะมีครอบครัวอยู่แล้ว หากถูกใจคนอื่นก็พร้อมที่จะทิ้งอีกคนหรือบางครอบครัวก็มีลูกด้วยกันก็ยังทำกับลูกได้ลงคอ ส่วนอีกคนที่เป็นฝ่ายมาเป็นชู้ บางคนไม่รู้ว่าเขามีเจ้าสามีหรือมีเมียอยู่แล้วก็ไม่ผิดแต่เมื่อใดก็ตามที่ได้รู้เรื่องแล้วควรเลิกเป็นชู้ซะ แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นอยู่ในสังคมถึงจะรู้แต่ก็ไม่ยอมเลิก พร้อมที่จะแย่งเอาเป็นของตัวเองให้ได้โดยไม่สนใจว่าได้ทำลายครอบครัวคนอื่น หรือทำร้ายเด็กเล็กๆหรือไม่ กับอีกประเภทที่รู้อยู่แล้ว

แต่ก็ยังทำ ยังอยากที่จะเป็นชู้และคนกลุ่มนี้จะไม่แคร์ว่าใครว่าจะว่าอย่างไร  อย่างเรื่องของหญิงสาวรายนี้คนที่เป็นชู้กับสามีของเธอเป็นถึงเพื่อนสนิทของเธอเอง ซึ่งน่านับถือเธอมากๆที่ยังทำจิตใจให้เข้มแข็งได้ ปกติใครที่จับสามีตัวเองว่ามีชู้ก็เจ็บใจจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ถ้าหากมารู้ว่าชู้ของสามีตัวเองคือเพื่อนสนิทตัวเองนี่ ช็อค 2 เด้งกันเลยทีเดียว

         อันที่จริงคนเราควรรู้จักพอ ไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับชายอื่นหรือหญิงอื่นให้ครอบครัวต้องมีปัญหา หากว่าเบื่อคนในครอบครัวแล้วคิดว่าอยู่ด้วยกันไม่ได้จริงๆ ควรจะเลิกรากันไปดีๆก่อนที่จะไปมีคนใหม่ หากคนเรารู้จักหักห้ามใจตัวเอง นึกถึงใจเขาใจเราชีวิตครอบครัวของคนทุกคนในสังคมคงมีความสุขมากว่าในปัจจุบันนี้

 

เรื่องที่น่าสนใจโดยนำเสนอจาก คาสิโนออนไลน์ฝากขั้นต่ำ 100

Continue Reading

 ตีกันในโรงพยาบาลแค่หัวร้อนหรือเป็นคนไร้ความคิด   

 เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันจะมีให้เราได้เห็นและได้อ่านตาม หนังสือพิมพ์ หรือแม้แต่จากเว็บไซด์ก็มีหรือที่ไม่พาดหัวข่าวก็มี

โดยการยกพวกตีกันจะเกิดจากความใจร้อนของคนไม่กี่คน แล้วสร้างปัญหาให้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันขึ้นหลังจากนั้นเพื่อนผู้แสนดีของแต่ละฝั่งก็จะมาเข้าข้างเพื่อนของตัวเองโดยไม่ลืมหูลืมตา ไม่ถามก่อนด้วยซ้ำว่าเหตุการณ์นี้มีสาเหตุมาจากอะไร

ด้วยสายเลือดความรักเพื่อนอย่างรุนแรง เพื่อนเรามีเรื่องเราต้องชวย และด้วยความคิดแบบนี้จึงมักมีเหตุการณ์บานปลาย เกิดเหตุการณ์ยกพักพวกมาถล่มกันมีให้เห็นบ่อยๆ ก่อนหน้านี้ จะเห็นตีกันตามสถานที่ต่างๆและตามถนนหนทาง แต่ ณ ปัจจุบันนี้ลามปามเข้ามาถึงในสถานพยาบาลกันเลยทีเดียว 

     จากที่ web ของ sanook พาดหัวข่าวเมื่อวันที่ 10/11/2562

โดยระบุว่า ได้มีการยกพวกตีกันหน้าผับ แล้วมีการตามมาทำร้ายคนเจ็บต่อที่โรงพยาบาล ภายในห้องฉุกเฉิน โดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ข่าวในลักษณะแบบนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว 2-3 ครั้งโดยเมือมีการจับกุมคนก่อเหตุจะเห็นว่า อายุของแต่ละคน น่าจะใช้คำว่า วัยรุ่นไม่ได้แล้ว

เพราะเกือบจะทุกคนอายุเกิน 25 ปีขึ้นไป อันที่จริงคนที่มาก่อนเหตุควรจะมีจิตสำนึกให้มากกว่านี้ ว่าสถานที่ที่คุณจะตามไปทำร้ายคนเจ็บนั้น เป็นที่ไหน

ถ้าคุณไปก่อเหตุวิวาทแล้วจะมีใครได้ที่จะได้รับผลกระทบจากการกระทำของพวกคุณ  จากการติดตามข่าวจะเห็นได้ว่า ทั้งพยาบาล ทั้งหมอ และคนไข้คนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับที่ตีกันเลย ต้องมาได้รับผลกระทบไปด้วย ผู้ป่วยคนอื่นที่เขามีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนจาก หมอและพยาบาล อาจต้องมาเสียชีวิต เพราะความไม่มีความคิดของคนเพียงไม่กี่คน 

เมื่อมีข่าวแบบนี้ออกมาที ผู้คนก็จะพากันมาเขียนวิจารณ์ ประจานการกระทำของกลุ่มคนพวกนี้

แล้วก็จะมีการเข้ามาขอโทษสังคม ด้วยเหตุผลรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อไหร่ที่เหตุการณ์แบบนี้จะหมดไปสักที ถึงเวลาหรือยังที่ประเทศของเราควรจะมีกฎ
หมายที่เข้มงวดมากกว่านี้ การที่มีเหตุการณ์ตีกันในโรงพยาบาลบ่อยๆแบบนี้ หมอและพยาบาลจะทำอย่างไร 

     อยากให้สังคมไทยน่าอยู่คน ทุกคนต้องช่วยกัน เราไม่สามารถบังคับคนอื่นได้ แต่เราสามารถบังคับตัวเองได้  การที่เป็นคนอารมณ์ร้อนไม่เคยสร้างผลดีเลยสักครั้ง จะเห็นว่าทุกครั้งที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ จะมีเหตุการณ์บานปลาย และผู้ที่อารมณ์ร้อนเองก็เป็นผู้ที่ต้องมาเสียใจภายหลังทุกครั้ง อย่างเหตุการณ์ในครั้งนี้

มีการเผยแพร่คลิปเหตุการณ์อย่างผลกระทบที่จะเกิดจากผู้ที่กระทำเองคือ คุณกำลังทำให้พ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เสียใจและอับอายต่อการกระทำของคุณ และคุณกำลังทำให้ชีวิตของตัวเองเสี่ยงต่อการตกงาน

เพราะคงไม่มีบริษัทที่ไหน ที่อยากรับคนหัวรุนแรงมาทำงานด้วยหรอก 

Continue Reading