แต่งแบบธรรมชาติไม่โบ๊ะ

วิธีการแต่งหน้าแบบธรรมชาติ สวยไม่โบ๊ะแต่ปกปิดได้เนียนกริบทำได้ไม่ยากถ้าหากว่าคุณรู้จักหน้าตาของตัวเองและไม่พยายามฝืนธรรมชาติที่มีโดยที่เรานั้นจะมีเทคนิคง่ายๆให้เพื่อนๆนั้นได้ลองแต่งกันและก็สามารถที่จะแต่งแบบว่าทุกวันก็ยังได้เลยเพราะว่าการที่เรานั้นแต่งหน้าก็ทำให้เรานั้นหมั่นใจในระดับหนึ่งว่าการที่เราที่ไม่ปล่อยให้ใบหน้าของเรานั้นจืดจนไม่หน้ามองหรือว่าธรรมดามากนั้นก็เป็นอะไรที่ที่ไม่มีจุดที่จะมองได้เลย

แต่ถ้าว่าเรานั้นหัดลองการแต่งตัวเพื่อที่เรานั้นจะได้มีการพัฒนาในการที่ทำให้เราดูดีในการแต่งตัวหรือว่าทำให้เรานั้นมั่นใจได้ง่ายมากเพียงแค่เรานั้นเริ่มจากการที่เรานั้นเปลี่ยนตัวเองแล้วหาซื้อของหรือว่าอุปกรณ์ในการแต่งหน้าเพื่อที่ให้เราดูดีเสริมความมั่นใจ

  1. อย่าฟืนธรรมชาติ การที่เรานั้นแต่งหน้านั้นถ้าเรานั้นรู้ตัวว่าเรานั้นเป็นคนที่มีผิวสีแทนหรือว่าสีน้ำผึ้งนั้นแล้วเราไปเลือกเครื่องสำอางในโทนสีขาวนั้นจะทำให้เราดูเป็นคนละคนหรือว่าหลอกตาอย่างมากเพราะว่าเราเป็นคนที่สีผิวแทนแต่ว่าใช้เครื่องสำอางสีขาวอันนี้ไม่เหมะเอย่างมากเพราะว่าจะทำให้ไม่เข้ากับตัวเองการที่เรานั้นยอมรับสีผิวของตัวเองนั้นเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วเพราะว่าจะได้ให้เรานั้นแต่งตัวหรือว่าแต่งหน้านั้นให้เข้ากับสีผิวถึงแม้ว่าเราจะมีสีผิวที่เป็นสีแทนแต่ว่าเรานั้นก็สวยได้เหมือนกัน 
  2. วิธีในการที่เราเลือกรองพื้นนั้นควรลงทาที่แขนเราว่าเข้ากับสีผิวเราไหมการที่เราใช้สีรองพื้นที่เด่นกว่าสีผิวตัวเองนั้นก็ทำให้เราดูตลกนะค่ะ การที่เราเลือกสีรองพื้นที่ใกล้กับสีผิวเรานั้นสามารถที่จะเปลี่ยนสภาพผิวของเราให้ดีและยังช่วยในการปกปิดทั้งนี้ไม่ว่าคุณจะมีทั้งนี้ไม่คุณจะมีสีผิวที่แห้งหรือมันก็ไม่แนะนำให้เลือกรองพื้นเนื้อแมทมาเพราะมันจะทำให้ลุคที่เป็นธรรมชาติและทำให้ผิวของคุณนั้นดูแห้งลงไปอีกด้วย คนที่มีผิวแห้งนั้นควรที่ใช้สูตรออย ส่วนคนที่มีผิวมันให้ใช้ชนิดสูตรน้ำ 
  3. การที่เราเลือกเบอร์แป้งนั้นก็ควรที่จะเลือกสีเดียวกับสีรองพื้นและก็ควรที่จะใช้แป้งพัฟที่เป็นธรรมชาติจากนั้นก็กดลงที่ผิวหน้า
  4. การเลือกทรงคิ้วนั้นเพราะว่าเรานั้นไม่ได้เป็นลูกครึ่งการที่เราจะเขียนคิ้วให้โก่งนั้นไม่เป็นธรรมชาติดังนั้นเราต้องเขียนให้เป็นที่ที่ธรรมชาติที่สุดเพราะว่าคิ้วนั้นคือมงกุฎของใบหน้านะค่ะ 
  5. จากนั้นเราก็ทาลิปแค่นี้เป็นการที่เราแต่หน้าแบบว่าธรรมชาติหรือว่าเราเลือกที่จะปัดแก้มเข้าไปอีกอันนี้ก็ได้เหมือนกันแต่ว่าการปัดแก้มนั้นควรเลือกที่ให้เข้ากับสีผิวของเรานิสนึงนะค่ะเพื่อที่จะได้เป็นธรรมชาติ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sexybaccarat

Continue Reading

หยุดการบูลลี่ในสังคมไทย

ในปัจจุบันต้องยมรับว่าการบูลลี่ในสังคมไทยนั้นถือว่าเป็นปัญหาอย่างมาก ไม่ได้เป็นปัญหาของคนที่ได้บูลลี่คนอื่นแต่เป็นปัญหาของคนที่โดนบูลลี่นั่นเอง ทำให้คนเหล่านี้นั้นใช้ชีวิตด้วยความไม่มั่นใจและเสียใจกับสิ่งที่ตนโดนบูลลี่นั่นเอง การบูลลี่นั้นสามารถเกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่ช่วงอายุที่จะโดนบูลลี่ได้นั้นคือตั้งแต่เด็กและเกิดขึ้นมากในช่วงวัยนี้ด้วยและทำให้เรื่องเหล่านี้อาจะเกิดเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตในอนาคตได้นั่นเอง

การบูลลี่มักเกิดในช่วงอายุเด็กหรือวัยรุ่นเพราะเนื่องจากช่วงวัยนี้อาจจะยังไม่มีวุฒิภาวะในความคิดที่มากพอ ดังนั้นแล้วเราจะสามารถหยุดการบูลลี่ในสังคมไทยได้อย่างไร เพราะถ้ายังคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆการกระทำจากคนกลุ่มหนึ่งที่ได้มีการบูลลี่คนอื่นก็ยังคงมีอยู่ในสังคมต่อไปละการบูลลี่ก็ไม่จบไม่สิ้นนั่นเอง  เรื่องนี้นั้นควรจะมีการปลูกฝังตั้งแต่ภายในครอบครัว

เพราะครอบครัวเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดที่สุดและบางครั้งพฤติกรรมเหล่านี้ก็อาจจะมาจากครอบครัวนั่นเอง ครอบครัวจึงมีการสอนตั้งแต่เด็กว่าการกระทำเช่นนี้นั้นเป็นสิ่งไม่ดีและควรให้เด็กตระหนักได้ว่าถ้าหากสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตนเองนั้นตนเองจะรู้สึกเช่นไรนั่นเอง เมื่อครอบครัวมีการสอนแล้วสิ่งต่อมาคือสถาบันการศึกษา

แน่นอนว่าเด็กจะต้องเรียนและได้พบเพื่อน แลถ้าเด็กได้รับการอบรมและสอนจากครอบครัวมาเป็นอย่างดีและเข้าใจนั้น การที่มาเจอเพื่อนและเพื่อนเป็นคนที่มีพฤติกรรมการบูลลี่หรือไม่ให้เกียรติคนอื่นนั้น เด็กคนที่โดนอบรมจากครอบครัวก็จะไม่มีพฤติกรรมเหล่านั้นนั่นเอง เพราะเด็กได้เข้าใจถึงสิ่งเหล่านี้ว่าเป็นสิ่งไม่ดี ก็จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในพฤติกรรมการบูลลี่คนอื่นนี้ในเด็กได้และสถาบันการศึกษาควรจะให้ความสำคัญอย่างมากในเรื่องนี้ มีการอบรมและให้แนวทางเสนอแนะกับเด็กว่าถ้าหากทำสิ่งเหล่านี้แล้วผลที่จะตามมาเป็นอย่างไร

แน่นอนว่าถึงแม้จะมีการอบรมหรือสั่งสอนก็ยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะควบคุมเรื่องเหล่านี้ แต่ในการอบรมสั่งสอนเพื่อลดความเสี่ยงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีและสามารถจัดการปัญหาเหล่านี้ได้อย่างระยะยาวด้วยนั่นเอง การปลูกฝังจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เมื่อมีการอบรมสั่งสอนตั้งแต่สถาบันครอบครัวไปจนถึงสถาบันการศึกษาเมื่อเด็กได้รับสิ่งเหล่านี้และเรียนรู้ตั้งแต่เด็กก็จะทำให้เด็กเหล่านี้เติบโตโดยการไม่ไปบูลลี่คนอื่นและช่วยให้เด็กนั้นสามารถป้องกันตนเองได้เมื่อตนเองนั้นโดนบูลลี่เช่นกัน ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยากแต่ถ้าหากทั้งตัวเด็กนั้นได้รับการสั่งสอนที่ถูกต้องและดีนั้นก็จะสามารถทำให้ปัญหาการบูลลี่ในสังคมไทยนั้นหมดไปได้นั่นเอง 

 

 

สนับสนุนโดย   sexybaccarat

Continue Reading