การใช้ชีวิตในสังคมเมือง 

การใช้ชีวิตในสังคมเมือง  หากพูดถึงสังคมเมืองเชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงกรุงเทพฯ  เนื่องจากว่าที่นี่นั้นเป็นศูนย์รวมของผู้คนมากมายจากทั่วทุกสารทิศไม่ว่าจะมาจากจังหวัดทางภาคเหนือ

หรือแม้แต่มาจากจังหวัดทางภาคกลางรวมถึงจังหวัดทางภาคใต้และทำแถบทางภาคอีสานก็ตามผู้คนสมัยใหม่หรืออาจได้กล่าวว่าสำหรับเด็กจดใหม่นั้นมักจะเดินทางมาหางานทำในเมืองแทนที่จะอยู่ทำงานในจังหวัดของตนเอง

      เมื่อผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองก็จะเห็นได้ว่าสังคมเมืองนั้นมีความแตกต่างกับตามต่างจังหวัดหรือตามชนบทเป็นอย่างมากเพราะคนในสังคมเมืองนั้นต้องมีการแก่งแย่งกันไม่ว่าจะการแย่งกันขึ้นรถโดยสารขึ้นรถแท็กซี่หรือแม้แต่รถไฟลอยฟ้าหรือรถใต้ดินก็ตามแต่เผื่อที่ทุกคนนั้นจะสามารถเดินทางให้ทันกับการเข้างานโดยชีวิตในสังคมเมืองนั้นเป็นสังคมที่เร่งรีบทุกคนจะต้องตื่นแต่เช้าและรีบเดินทางไปถึงที่ทำงานก่อน 8:00 น หรือบางที่นั้นมีการเข้างานตั้งแต่ 07:00 น ก็ต้องให้ทันก่อนเข้างานซึ่งถ้าหากใครไปทำงานสายก็จะถูกหักเงินเดือน

       นอกจากนี้หลังจากเลิกงานแล้วผู้คนก็ยังจะต้องแย่งกันขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับมายังห้องพักซึ่งกว่าจะถึงห้องพักนั้นก็ต้องฝ่าฟันกับปัญหารถติดฝ่าฟันกับจำนวนคนที่ต้องการที่จะเดินทางกลับห้องพักของตนเองดังนั้นกว่าจะถึงห้องพักนั้นก็เป็นเวลามืดค่ำเราทุกคนต่างก็จะเพลียกัน

 

ทำให้การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองเล็กๆว่าตื่นเช้าออกไปถึงที่ทำงานและกลับมาถึงบ้านในตอนค่ำแทบจะไม่รู้จักกับเพื่อนบ้านเลยว่าเพื่อนบ้านหรือเพื่อนข้างห้องของเรานั้นมีหน้าตาหรือทำงานอะไร 

           การใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองนั้นแทบจะไม่มีมนุษยสัมพันธ์พูดคุยกันเลยและบางทีแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์ในกลุ่มของเพื่อนที่ทำงานนั้นก็แทบหาความจริงใจไม่ได้เพราะการทำงานนั้นก็ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นแย่งตำแหน่งกันเพื่อให้ตัวเองนั้นมีความโดดเด่นถึงจะทำให้หัวหน้างานนั้นให้ความสนใจและปรับเงินเดือนให้ดังนั้นความสัมพันธ์ของคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองส่วนใหญ่ก็คือความสัมพันธ์ที่ต้องมีประโยชน์มาแลกเปลี่ยนกันนั่นเอง

      นอกจากนี้คนในครอบครัวยังไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากนักเพราะแต่ละคนนั้นก็มีวิถีชีวิตเป็นของตนเองและยุ่งกับการใช้ชีวิตเป็นของตนเองในขณะที่ผู้ปกครองของเด็กก็ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวไปทำงานและกลับบ้านก็มืดค่ำส่วนลูกหลานนั้นก็ใช้ชีวิตตื่นแต่เช้าเพื่อเดินทางไปโรงเรียนกลับมาบ้านก็เข้าห้องของตนเองเพื่อพักผ่อนเตรียมความพร้อมที่จะตื่นแต่เช้าออกไปโรงเรียนทำให้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวของคนในสังคมเมืองนั้นก็ไม่ดีเช่นเดียวกัน

        เราสามารถกล่าวได้ว่าการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมเมืองนั้นถึงแม้ว่าสิ่งแวดล้อมจะดีตึกรามบ้านช่องจะใหญ่โตรวมถึงถนนหนทางจะดีมีผู้คนเยอะแยะมากมายเต็มไปหมดแต่ผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมเมืองนั้นเน้นวัตถุนิยมเป็นหลักและไม่มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ซึ่งกันและกันที่สำคัญไม่มีความผูกพันกันถึงแม้ว่าจะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ตาม

 

สนับสนุนโดย   www.ufabet.com ลิ้งเข้าเว็บไซต์คะ

Continue Reading

อายุห่างกันไม่ใช่ปัญหา  

ถ้าเรานั้นเคยได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องมีชาวจีนคู่หนึ่งที่แอบชอบเด็กผู้หญิงหนึ่งคนที่อายุนั้นเพียงแค่ 12 ขวบ  แต่ว่าชายหนุ่มนั้นอายุ 24 ปี  แต่ว่าการที่เรานั้นจะรักใครนั้นเป็นเรื่องที่เราให้พูดเกี่ยวกับความรัก  แต่ว่าการที่ชายหนุ่มผู้นี้นั้นได้มีอายุที่24 ปีแต่ว่าชายหนุ่มผู้นี้นั้นขอรอเพื่อที่จะใช้เธอนั้นได้โตขึ้นและเรียนหนังสือ 

แต่ว่าด้วยเรื่องความรักเป็นสิ่งที่สวยงามนั้นเธอผู้ที่เป็นหญิงสาวนั้นได้ประกาศแต่งงานตอนที่นั้นอายุ 17 ปีส่วนผู้ชายนั้นอายุ 30 ปี นั่นเอง แต่ว่าการแต่งงานของเธอนั้นเป็นไปด้วยความรักดังนั้นเธอจึงตัดสินใจแต่งงานกับคนที่เธอนั้นรักนั่นเอง  แต่ด้วยความรักเป็นเรื่อง ที่เรานั้นไม่สามารถที่จะบรรยายได้นั่นเองเพราะว่าเธอนั้นได้โตเป็นสาว  ด้วยการที่เธอนั้นโตขึ้นไม่อยากที่จะคิดเพราะว่าการที่เธอโตนั้นทำให้เธอนั้นมีรูปร่างที่ดี  และสวยด้วย  เพราะว่าด้วยเธอนั้นโตเต็มที่นั่นเอง    

         การที่เธอนั้นโตขึ้นแน่นอนว่าเธอนั้นได้โตเป็นสาวแบบว่าเต็มที่แล้วนั่นเองการที่เธอนั้นได้โตเต็มที่แล้ว ความสวยของเธอนั้นเป็นชั่งที่หน้ารักอย่างมากแต่ว่าเธอนั้นได้ตัดสินใจในการแต่งานกับชายหนุ่มที่เธอนั้นหลงรัก  และด้วยการที่เธอนั้นแต่งานนั้นเต็มได้การที่เธอนั้นมีความสุขอย่างมากเพราะว่าเธอนั้นได้อยู่กับคนที่เธอนั้นรัก  การที่เราได้อยู่กับคนที่เรานั้นรักเป็นเรื่องที่เรานั้นสามารถที่จะทำให้ชีวิตของเรานั้นเบ่งบาน  การที่เราได้อยู่ด้วยกันเป็นเรื่องที่ทำให้เรานั้นมีความสุขมากขึ้น  และการที่เราได้อยู่กับคนที่เรารักเป็นเรื่องที่ดีดังนั้น

     เธอคิดว่าความรักของเธอนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้เธอนั้นมีความสุขอย่างมากและทำให้เธอนั้นตัดสินไม่ผิดในการที่เธอนั้นรักกับผู้ชายคนนี้  ส่วนผู้ชายนั้นยังมีการรอให้เธอนั้นโตขึ้นและเรียนหนังสือนั่นเอง  การที่เป็นผู้ชายนั้นก็ต้องอดทนในการรอ  จนกว่าฝ่ายหญิงนั้นจะพร้อมและเธอนั้นก็ตัดสินใจในการแต่งงานกันนั่นเอง

  ถือว่าเป็นเรื่องที่หน้าตกใจเพราะว่าแอบรักกันตั้งแต่อายุยังน้อยตั้งแต่อายุ ของฝ่ายหญิงนั้น 12 ปีนั่นเพราะถือว่าเป็นเรื่องที่เรานั้นสามารถที่ใครนั้นจะทำได้นั่นเอง  การที่เรานั้นจะมีรักเดียวเพื่อที่รอคนที่เรารักและต้องสื่อสัตว์อีกด้วย  เพราะว่าอายุนั้นเป็นเรื่องที่ห่างแต่ว่าสองคนนี้ได้เรียนรู้ที่จะดูแลรักกัน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  www.ufabet.com ลิ้งเข้าเว็บไซต์คะ

Continue Reading