อารมณ์ร้อนอย่ามาเป็นครู

          ได้อ่านข่าวจาก www.kapook.com รายงานข่าวครูหัวร้อน เป็นข่าวดังประจำวันที่ 11 พฤศจิกายน 2562  ซี่งตามข่าวระบุว่า มีการแชร์คลิปวิดีโอคุณครูทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน จำนวน 2 คนด้วยการถีบเด็กทั้งสองคนจนตกเก้าอี้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่  โรงเรียนแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย อยู่อำเภอสวรรคโลก แต่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อโรงเรียน 

โดยมีการระบุด้วยว่าคลิปเหตุการณ์คุณครูทำร้ายเด็กนักเรียน 2 คน ที่กำลังมีการแชร์กันอยู่นั้น ความจริงแล้วคุณครูเป็นคนให้ถ่ายคลิปไว้เองอีกด้วย แต่ที่คลิปหลุดออกมายังโลกออนไลน์ก็เพราะว่า คุณครูมีการส่งคลิปนี้เข้าไปในกรุ๊ปไลน์ที่เด็กนักเรียนที่เสียหายอยู่ และยังมีการสั่งห้ามเด็กทั้งสองคนไม่ให้นำคลิปนี้ไห้ใครดูและอย่าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเป็นอันขาด

โดยเมื่อมีการดูเหตุการณ์ในคลิปและมีการตรวจสอบแล้วพบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2562 แล้ว และปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากคุณครูโกรธที่นักเรียนไม่ยอมไปเข้าเรียนในวิชาของคุณครู ซึ่งมีเด็กเป็นจำนวนมากที่ไม่ยอมไปเข้าเรียนวิชาของครูคนนี้ แต่คุณครูลงโทษเฉพาะเด็ก 2 คนนี้เท่านั้น ซึ่งทางครูยังไม่ได้ออกมาชี้แจง

อันที่จริงคนที่จะมาเป็นครูได้ สิ่งแรกคือ คุณต้องถามตัวเองให้ได้ก่อนว่า คุณเป็นคนรักเด็กไหม คุณขี้รำคาญ ขี้หงุดหงิดหรือเปล่า คุณสามารถรับฟังและให้คำปรึกษาเด็กได้ไหม เด็กเสียงดัง เกเร คุณควบคุมดูแลได้หรือเปล่า นี่คือพื้นฐานมากๆ ที่คุณควรจะตรวจสอบตัวเองก่อนจะมาเป็นครู ไม่ใช่เพราะไม่รู้จะเป็นอะไรก็เลยมาเป็นครู  หรือเพราะพ่อแม่อยากให้เป็นครูเลยมาสมัครเป็นครู  หรือไม่ก็เพราะต้องการรับราชการจึงมาเป็นครู  เพราะถ้าคุณมีความคิดแค่เพียงเท่านั้นคุณจะไม่สามารถเป็นครุได้ดีเลย เป็นแค่เพียงคนที่มาทำหน้าที่รับจ้างสอนเท่านั้นเอง

ข่าวปัญหาเรื่องครูทำร้ายนักเรียน  หรือลงโทษนักเรียนรุนแรงเกินไปมีมากมายบ่อยครั้งและทุกครั้งปัญหาก็มักจะจบลงด้วยให้คุณครูออกมาขอโทษ และโรงเรียนก็จะทำเรื่องย้ายคุณครูที่ทำผิดไปโรงเรียนอื่น ซึ่งมันไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง เพราะครูท่านนั้นก็ยังได้สอนนักเรียนเหมือนเดิมเพียงแต่ ย้ายไปสอนที่ใหม่ ใครจะรับประกันได้ว่าเมื่อครุไปอยู่โรงเรียนใหม่แล้วจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ จะไม่กระทำกับลูกศิษย์แบบเดิมที่เคยทำมาเอง หากมีอารมณ์ไม่พอใจเกิดขึ้น

กระทรวงการศึกษาธิการ ควรมีการจริงจังในการแก้ปัญหานี้ได้แล้ว เข้าใจว่าครูนั้นหายาก แต่ถ้ามีครุที่มีพฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่ดีต่อสุขภาพจิตของเด็กเหมือนกัน เราเองในฐานะผู้ปกครอง จะวางใจให้ลูกไปโรงเรียนได้อย่างไร ถ้ายังมีครูแบบนี้ในสังคม

 

 

สนับสนุนโดย  เซ็กซี่บาคาร่า

Continue Reading

ข่าวของรถไม่ได้รถ ถูกเซลล์หลอกให้โอนเงิน

    

           มีผู้ใช้เฟสบุ๊ก รายหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความบอกเล่าเรื่องราวว่าตอนเองต้องการซื้อรถกับศูนย์รถยนต์แห่งหนึ่งแถวลาดพร้าว ซึ่งทางเซลล์ได้แจ้งให้โอนเงินดาวน์เข้าบัญชีของเซลล์ โดยลูกค้าได้มีการไปพูดคุยติดต่อเรื่องซื้อรถกับเซลล์คนนี้ที่ศูนย์เป็นประจำอยู่แล้ว ทุกคนในศูนย์ก็รู้จักตน

ทำให้เกิดความไว้ใจโอนเงินเข้าบัญชีในชื่อของเซลล์ให้เซลล์จัดการเรื่องรถให้ จนมาถึงตอนนี้ติดต่อไปที่ศูนย์รถยนต์สาขาลาดพร้าว ที่มีปัญหากัน แต่ทางศูนย์ไม่รับผิดชอบ บอกแต่ว่าจะตามเซลล์คนนั้นให้แต่ไม่พูดถึงเรื่องการคืนเงิน ทำให้ลุกค้าเกิดความไม่สบายใจเกรงว่าจะไม่ได้เงินคืน

          จากข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความไว้วางใจที่ผู้ซื้อมีต่อเซลล์ ที่มีการพูดคุยติดต่อกันมานาน ซึ่งในสังคมปัจจุบันนี้ เราไม่สามารถที่ไว้วางใจใครได้เลย แม้แต่ญาติมิตรของเราเอง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับทรัพย์สินเงินทอง หากต้องซื้อสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ หากเราต้องเงินเป็นจำนวนเงินก้อนโตนั้น เราควรไปทำเอกสารและจ่ายเงินในสถานที่ที่เราซื้อสินค้านั้น ๆ มีหลักฐานเอกสารต่างๆไว้กับเรา อยากโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวของใครแม้ว่าเราจะรู้จักกับคนๆนั้นก็ตาม เพราะหากไม่มีหลักฐานว่าเราโอนเงินไปทำไมแล้วจะกลายเป็นว่า เรายินยอมโอนเงินให้คนนั้นด้วยการเสน่หา แล้วจะเรียกร้องเอาเงินคืนกลับมาไม่ได้ หรือถ้าอยากได้เงินจริงๆ อาจะใช้เวลานาน เพราะต้องส่งฟ้องศาลให้ยุ่งยากเข้าไปอีก อาจจะต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาเพิ่ม

          ในส่วนของพนักงานเซลล์ที่ขายรถยนต์ เมื่อมีการหลอกลวงลูกค้าแบบนี้ต่อไปก็จะไม่สามารถทำอาชีพนี้ได้อีกจะไม่มีใครเชื่อใจคุณ รวมถึงเพื่อนฝูงญาติพี่น้องของคุณเองก็ตาม หากเขารู้เรื่องที่คุณมีการหลอกเอาเงินลูกค้าไป การเป็นคนดีนั้นทำยากแต่คนเราเมื่อเกิดมาเป็นคนแล้ว ควรทำตัวเป็นคนดีไม่คดโกงเงินใคร ที่สำคัญทางบริษัทศูนย์ตัวแทนรถยนต์ควรมีความรับผิดชอบให้มากกว่านี้

ควรช่วยเหลือประสานงานให้ลูกค้าสบายใจและวางใจว่าจะสามารถติดตามพนักงานเซลล์คนดังกล่าวนำเงินมาคืนลูกค้าได้ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นก็เป็นพนักงานของทางศูนย์เองที่โกงเงินลูกค้า และสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้หากศูนย์บริการรถยนต์ปัดความรับผิดชอบไม่ยอมช่วยเหลือลูกค้า จะมีผลทำให้คนที่รับทราบข่าวสารและคอยติดตามผลการแก้ไขอยู่ออกมาแชร์กันปากต่อปากถึงการปัดความรับผิดชอบของศูนย์บริการ และจะมีผลกระทบกับทางศูนย์ไม่ช้าก็เร็ว เพราะคงจะไม่มีลูกค้าคนไหนอยากมาซื้อที่ศูนย์ที่ไม่มีความรับผิดชอบแน่นอน

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  Gclub ดาวน์โหลด

Continue Reading

การดูแลผิวในสถานการณ์ PM 2.5

PM 2.5 (Particulate Matter) หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมลพิษที่ลอยอยู่ในอากาศ (Airborne Particulate Matter Pollution) มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อฝุ่นจำพวกนี้มารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก จะทำให้มองเห็นเป็นลักษณะคล้ายกับหมอกจาง ๆ PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กนี้เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

โดยที่ประเทศไทยเรามีค่ามลภาวะทางอากาศสูงเป็นอับดับต้น ๆของโลก จึงทำให้มีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้เกิดผลเสียเมื่อได้รับ PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กสะสมเข้าไปในร่างกายเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายโดยตรงต่อร่างกาย เมื่อสูด PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเหล่านี้เข้าไป ด้วยอนุภาคที่มีขนาดเล็กของมัน ขนจมูกจึงไม่สามารถทำหน้าที่กรองได้ ทำให้สามารถผ่านเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย โดยผ่านเข้าทางโพรงจมูก เข้าสู่ถุงลม และปอดโดยตรง

สามารถแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้ และเข้าไปรบกวนกระบวนการทำงานของระบบอวัยวะในร่างกาย ด้วยเหตุนี้จะส่งผลให้เกิดโรคต่าง ๆ อาทิ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ จามหรือสามารถเกิดโรคภูมิแพ้ได้อย่างฉับพลัน และจะกระตุ้นผู้ที่มีอาการภูมิแพ้อยู่แล้ว ให้เกิดโรคทางเดินหายใจเรื้อรังได้ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดในสมอง สามารถมีอาการกำเริบรุนแรงได้มากกว่าปกติ โรคเยื่อบุตาอักเสบหรืออาการตาแดง และยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคปอดเรื้อรัง หรือมะเร็งปอดได้ เนื่องจาก PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก

ประกอบไปด้วยสารก่อให้เกิดมะเร็งมากมาย อาทิ เช่น สารปรอท แคดเมียม โลหะหนัก ฯลฯ นอกจากนี้ PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก สามารถสร้างความเสียหายต่อประสิทธิภาพด้านการคิด และสติปัญญา ในผู้ใหญ่เพิ่มความเสี่ยงให้เป็นโรคความเสื่อมถอยต่าง ๆ ทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์หรือภาวะสมองเสื่อมเพิ่มมากขึ้นถึง 3 เท่า

และทำให้เกิดโรคพาร์กินสันได้ถึง 34% เพิ่มความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดสมองประมาณ 13% รวมทั้งยังทำให้สมองส่วนเนื้อขาวเกิดการฝ่อหรือเหี่ยวลงมากกว่าคนปกติ ในส่วนของเด็กจะทำให้มีความผิดปกติทางด้านพัฒนาการทางสติปัญญา สติปัญญาด้อยลง การพัฒนาการช้าลง มีปัญหาทางการได้ยิน และการพูด ภาวะสมาธิสั้นในเด็ก และภาวะออทิซึม
สาเหตุที่ทำให้เกิด PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก ส่วนใหญ่เกิดจากการปล่อยควันเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม ควัน และฝุ่นจากการเผาไหม้ในที่โล่ง การเผาป่า การเผาขยะ การเผาไหม้เชื้อเพลิง ควันพิษจากการจราจร และการคมนาคม การที่มีจำนวนรถยนต์เพิ่มขึ้น ทำให้ยิ่งเพิมควันจากท่อไอเสียที่เป็นสาเหตุหลักของการเกิด PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก

รวมไปถึงฝุ่นละอองจากการก่อสร้างต่าง ๆ ดังนั้นกรุงเทพมหานครจึงเป็นจังหวัดที่มีค่ามลภาวะทางอากาศ PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเยอะมากกว่าจังหวัดอื่น ๆในประเทศไทย เพราะมีจุดที่มีการก่อสร้างเยอะมากที่สุด และมีการจราจร และการคมนาคมที่ติดขัด เนื่องจากความหนาแน่นของประชากรผู้ใช้รถใช้ถนนที่เพิ่มมากขึ้น

PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็ก มีขนาดเล็กกว่ารูขุมขนถึง 20 เท่า จึงสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ง่าย สามารถทำลายเซลล์ผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้า และทำลายโปรตีน Fila grin ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง และเมื่อได้รับ PM 2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กเข้าไปเป็นระยะเวลานาน จะกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระรบกวนการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ และทำลาย Collagen

ทำให้ผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร กระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีเร็วขึ้นกว่าปกติ ทำให้เป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ สำหรับผู้ที่มีผิวหน้ามัน จะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนก่อให้เกิดสิวรวมถึงผู้ที่มีสภาพผิวแพ้ง่าย จะทำให้เกิดผื่น ผิวหนังอักเสบ มีอาการแดง คัน ระคายเคืองผิว  

 

 

สนับสนุนโดย  ระบบฝากถอนเงิน Gclub

Continue Reading

การเลี้ยงผีปู่ย่า

  การเลี้ยงผีปู่ย่า เป็นการเเสดงความเคารพเเละกตัญญูต่อบรรพบุรุษของคนภาคเหนือ ซึ่งในสมัยก่อนของชาวภาคเหนือเเละชาวล้านนา ต่างก็นับถือผี เเละบางคน ถึงกับต้องเลี้ยงผีไว้ในบ้านเลยเพราะตอนนั้น ศาสนา ยังไม่ค่อยเข้ามาถึงดินเเดนเหล่านี้ คนล้านนา การเลี้ยงผีปู่ย่านั้น ก็ไม่ใช่ผีหรือสัมภเวสีเเบบที่ทุกคนคิดว่ามันจะน่ากลัวหรือเปล่า

จะบอกก่อนว่า มันไม่ได้น่ากลัวเเบบที่เราคิด เพราะความเชื่อ ของคนเหนือ หรือคนล้านนาเเล้ว ผีปู่ย่า ก็คือผีบรรพบุรุษของตระกูลนั้นนั่นเอง เมื่อคนในบ้านตายไปเเล้ว ก็จะสร้างศาลเล็กๆ หรือบางคนที่ไม่สะดวกตั้งศาล ก็ตั้งไว้ในบ้าน เป็นโซนๆไป สำหรับผีปู่ย่าทางความเชื่อของชาวภาคเหนือเเล้ว ก็คือ การเก็บเถ้ากระดูกของคนในตระกูล มาไว้รวมกัน เเละตั้งศาลไห้

เพราะชาวภาคเหนือ มีความเชื่อว่า ผีของครอบครัวของเราที่ตายไปเเล้ว จะมาดูเเล ปกป้อง เเละรักษาทุกคนภายในบ้าน ไม่ไห้มีอันตรายใดๆ เเละรอดปลอดภัย เหมือนอยู่กันเป็นครอบครัวเหมือนเดิม ชาวภาคเหนือมีความเชื่อว่า จะได้ใกล้ชิดเเละไห้ดูเเลลูกหลานของตัวเอง เเต่ไม่ได้ไห้มาดูเเลเหนื่อยๆฟรีๆเเต่อย่างใด 

ในการเเสดงความรักกับคนที่เรารักเเล้วนั้น จะต้องมีการทำบุญ เเละไหว้อาหารไห้กับผีปู่ย่า บางบ้าน ถึงกับจัดฟ้อน เเละเลี้ยงฉลองเลยทีเดียว เป็นการไหว้ผีปู่ย่าที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งในงานมีความสนุกสนาน มีการจัดเลี้ยง เเละสังสรรค์กับคนในครอบครัวของตัวเอง ซึ่งเป็นความอบอุ่นอย่างหนึ่ง เเละสำคัญกับคนในครอบครัวเเละตระกูลเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน ความเชื่อเหล่านี้ อาจจะลดหายไปมากเเล้ว เพราะตั้งเเต่มีเทคโนโลยี เเละคนสมัยใหม่เกิดขึ้นมา ก็ไม่มีใครคอยเชื่อเรื่องพวกนี้เเล้ว ตำนานเเละการนับถือผีบรรพบุรุษต่างๆ ก็ค่อยๆหายสาบสูญไปทีละน้อย ซึ่งในตอนนี้อาจจะไม่เหลือเเล้วก็ได้ เพราะมีศาสนา มาเป็นตัวขัดเกลาจิตใจเเทนการนับถือผีบรรพบุรุษ

เเล้ว ตำนานเเละการนับถือผีบรรพบุรุษต่างๆ ก็ค่อยๆหายสาบสูญไปทีละน้อย ซึ่งเป็นความเชื่อของเขา เเละเขาคงอยู่กันมาอย่างช้านาน เพราะเป็นคนภายในครอบครัว เราก็ยังเห็นอยู่บ้างตามบ้านในปัจจุบันในภาคเหนือ ที่จะจัดงาน ซึ่งเหนือในปัจจุบันของไทย ที่เป็นการเเสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษในตระกูลของตัวเอง เพราะชาวภาคเหนือมีความเชื่อกันว่า จะทำไห้ครอบครัวของตัวเอง ไม่มีปัญหาในการทะเลาะเบาะเเว้งใดๆ อีกทั้ง ยังช่วยคุ้มครองดูเเลลูกๆหลานๆในครอบครัวของตัวเองอีกด้วย เป็นความเชื่อ ที่มีเเต่ความกตัญญูรู้คุณ เเละไม่น่ากลัวเลย

 

ขอขอบคุณ  บาคาร่า sa gaming  ที่ให้การสนับสนุน

Continue Reading

ต้นไม้มงคลที่นิยมปลูกกัน

ต้นไม้มงคลนั้นคนส่วนใหญ่นิยมนำมาปลูกในบ้านตามความเชื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะคนที่ซื้อบ้านใหม่จะนิยมหาซื้อมาปลูกกันเพื่อเป็นสิริมงคลให้โชคลาภอยู่เย็นเป็นสุข แล้วแต่ล่ะความเชื่อของแต่ละคน ต้นไม้มงคลมีมากมายหลายชนิดหายประเภท เราสามารถหาซื้อมาปลูกกันได้ โดยคนส่วนใหญ่จะนิยมปลูกต้นเล็ก ๆ ไว้ประดับบ้านกัน

สามารถเคลื่อนได้ง่ายและดูแลรักษาความสะอาดบ้านง่ายด้วย ปัจจุบันต้นไม้มงคลถือว่าเป็นต้นไม้ที่สร้างอาชีพให้กับคนขายเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว เพราะคนไทยล้วนให้ความสำคัญกับต้นไม้มงคล หาซื้อมาปลูกตามบ้าน ตามคอนโดกัน เรามาดูกันว่าต้นไม้มงคลอะไรบ้างที่คนนิยมปลูกกันเป็นส่วนใหญ่

1.ต้นวาสนา  เป็นต้นไม้มงคลที่คนให้ความเชื่อว่าถ้านำมาปลูกในบ้าน จะทำให้คนในบ้านเรามีโชควาสนาทำการงานเจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคลให้กับบ้านที่อยู่อาศัยกัน ยิ่งถ้าบ้านไหนนำมาปลูกแล้วต้นวาสนาเกิดออกดอกขึ้นมาเชื่อกันว่าบ้านนั้นจะได้รับแต่โชคลาภเข้าบ้าน คนในบ้านได้รับความสมหวังทุกอย่าง

2.ต้นนางกวัก คนส่วนใหญ่ให้ความเชื่อกันว่าถ้าปลูกต้นนางกวักไว้ในบ้านหรือไว้หน้าร้านค้า ต้นนางกวักจะช่วยเรียกเงินทองให้ไหลเข้ามา หรือเรียกลูกค้าให้เข้าร้าน ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าจะนิยมนำมาตั้งไว้หน้าร้านค้าของต้นเพื่อเป็นการเรียกลูกค้ากัน 

3.โป๊ยเซียน  เป็นต้นไม้มงคลที่คนเชื่อว่าปลูกแล้วช่วยในเรื่องปัดเป่าความทุกข์เอาสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ออกจากบ้าน ช่วยให้บ้านมีแต่ความสงบสุข ปราสจากความเดือดร้อน ให้บ้านมีแต่โชคลาภเงินทองไม่ขาด ช่วยให้คนในครอบครัวเจอแต่ความสุขพบเจอแต่สิ่งดี ๆ

4.ต้นมะลิ  เป็นต้นไม้มงคลที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูกไว้เพื่อเก็บดอกมาไหว้บูชาพระในบ้าน เป็นต้นไม้ที่ให้กลิ่นหอมกับบ้าน เชื่อว่าเป็นต้นไม้มงคลที่สร้างความบริสุทธิ์ให้กับบ้านที่เราอยู่ ปลูกแล้วทำให้บ้านมีแต่คนรักคนเคารพนับถือ ต้นมะลิจึงพบตามบ้านทั่วไปมากมายในปัจจุบัน

5.ต้นกระบองเพชร  เป็นต้นไม้มงคลที่คนเชื่อว่าเป็นต้นไม้ที่ทำให้การงานเจริญก้าวหน้า ให้โชคลาภแก่คนที่นำมาปลูก ส่วนใหญ่คนทำงานจะนิยมนำมาปลูกไว้บนโต๊ะทำงานกัน เชื่อว่าจะทำให้การงานเจริญรุ่งเรือง ต้นกระบองเพชรเป็นต้นไม้ที่มีความอดทนต่อทุกสภาพอากาศ

6.ต้นกล้วยไม้ เป็นต้นไม้มงคลที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูกกันตามบ้านเรือนมากมาย เชื่อว่าปลูกไว้แล้วทำให้คนในบ้านมีคุณธรรม เป็นคนจิตใจอ่อนโยน บางบ้านก็นิยมปลูกไว้เพื่อเก็บดอกมากราบไหว้พระในบ้าน

Continue Reading

กฎหมายกับการทำแท้งในสังคมไทย 

คำถามก็คือว่า ถ้าเป็นกรณีที่นอกเหนือจากเหตุ 2 ข้อนี้  ไม่ว่าจะเป็นการทำแท้งเนื่องจากความไม่พร้อมของฝ่ายหญิง   หรือความไม่พร้อมของฝ่ายชาย   การทำแท้งเนื่องจากความไม่พร้อมทางเศรษฐกิจ คือ ไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดูทารกที่จะเกิดมา  และอื่นๆ  ก็คงไม่สามารถจะทำแท้ง ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

            การทำแท้ง นั้น ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดก็ตาม  หญิงซึ่งมีครรภ์   หรือว่าที่คุณแม่จำเป็น ในอนาคตนั้น  คือบุคคลที่น่าจะได้รับความเห็นใจมากที่สุด   

           แน่นอน  การแก้ปัญหาในสังคมนั้น  เมื่อเกิดการกระทำอะไรที่ทำผิดกฎหมายกันมากๆ  วิธีการหนึ่ง ก็คือ  การทำให้สิ่งที่ผิดกฎหมาย ให้กลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องกฎหมาย  ในหลายเรื่อง อาจจะใช้ได้ผล เพราะเมื่อทำเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย  รัฐอาจควบคุมได้  แต่บางเรื่องถ้ามีกันมากจนเลยเถิด  รัฐจะควบคุมได้จริงหรือไม่ เช่นกรณีความคิดที่อยากให้ทำแท้งเสรี

         ความคิดที่อยากให้ทำแท้งเสรี หรือการยกเลิกกฎหมายห้ามทำแท้งนั้น  คงไม่น่าจะเป็นความคิดที่ดีเท่าไรนัก  เพราะอย่างไรก็ตาม ทารกในครรภ์ ก็คือหนึ่งชีวิตที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในโลก  การทำแท้ง จึงไม่ต่างอะไรกับการฆ่าคนเลย  ฉะนั้นการห้ามทำแท้ง ก็น่าจะยังคงมีอยู่  เพียงแต่ข้อยกเว้นในเรื่องการทำแท้ง อาจจะมีการพิจารณาปรับปรุงกันได้  เฉกเช่นเรื่อง

         บทบัญญัติในมาตรา 305  ของประมวลกฎหมายอาญาที่เป็นข้อยกเว้นที่ให้ทำแท้งได้นั้น เป็นบทบัญญัติที่บังคับใช้ในสังคมไทย มาเป็นระยะเวลายาวนานมากแล้ว     อาจถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่สังคมไทย  อาจจะต้องเปิดช่องให้มีข้อยกเว้นในบางกรณีที่นอกเหนือจากสุขภาพของหญิง  เช่น กรณีสุขภาพของทารกในครรภ์มารดา ที่อาจเกิดมาไม่ครบ 32 ประการ  เพราะถ้าให้เด็กเกิดมาในสภาพที่ไม่พร้อม    คนที่น่าจะเดือดร้อนมากที่สุด ก็คือ เด็กที่จะเกิดมา  นั่นเอง

         อันที่จริงแล้ว  การแก้ไขปัญหาสังคมเช่น กรณีของการทำแท้งนั้น กฎหมายน่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว  การแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ คือ การสร้างความเข้าใจในเรื่องเพศศึกษาตั้งแต่ต้น ให้กับเยาวชนของชาติทั้งหญิงและชาย   ให้รู้จักการมีเพศสัมพันธ์ในวัยที่พร้อม     และที่สำคัญก็คือ  การสอนหรือเน้นย้ำความเป็นกุลสตรีที่ดี  ให้กับเยาวชน  คุณค่าของการเป็นหญิงไทยที่ดีพร้อม  มากกว่าการหลงไปกับวัฒนธรรมต่างประเทศ  ที่เลยเถิดไปจากแบบแผนอันดีของสังคมไทยในอดีต  อาจเป็นสิ่งสำคัญที่สถาบันการศึกษา  อาจต้องหวนย้อนกลับมาพิจารณากันใหม่   สิ่งที่ดี ในอดีตที่เคยพร่ำสอนกันมาในเรื่องการวางตนของชายและหญิง อาจถึงเวลา ที่ต้องให้เยาวชนของเราต้องตระหนักในเรื่องนี้มากขึ้น

Continue Reading

วิธีเก็บรักษาลิปสติกให้ใช้นานๆ 

ลิปสติกที่ยังไม่ได้เปิดใช้คุณรู้หรือไม่ว่ามันมีอายุนานได้ขนาดไหนกันซึ่งวันนี้ทางเว็บ  บาคาร่าออนไลน์  ของเรามีวิธีการสังเกตกับลิปสติกที่หมดอายุหรือมีวิธีการดูแลลิปสติกของเราให้อยู่กับเรานานให้ใช้นานนานก็เป็นการคุ้มค่าของมันมากที่สุดโดยมีวิธีดังนี้ 

ลิปสติกเป็นของที่คู่กับผู้หญิงโดยไม่มีใครแน่นอนที่จะไม่ทาลิปสติกเพราะถือได้ว่าเป็นของคู่กับผู้หญิงซึ่งไม่สามารถที่จะแยกออกจากผู้หญิงได้อย่างแน่นอนเพราะทำให้ผู้หญิงเรานั้นดูสวยและโดดเด่นขึ้นมาได้ในระดับหนึ่ง อย่างที่ว่าหาไม่มีการแต่งหน้าตาหรือทาลิปสติกอย่างเช่นหน้าสุดนี้ทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นอาจดูไม่ได้ซึ่งมันก่อให้เกิดเหตุการณ์ในหลายคนที่เราเรียกว่าคนป่วยนั่นเอง 

คุณรู้หรือไม่ว่าลิปสติกที่เราใช้ทุกวันมีวันหมดอายุนะคะ 

การใช้ลิปสติกที่หมดอายุมันเสียงมากรู้ไหมพบคุณไม่อาจรู้เลยว่าคุณจะแพ้มันเพราะอะไรบางคนที่ใช้แล้วมีอาการคันบวมขึ้นมาบางคนคิดว่าเป็นการแพ้ลิปสติกแต่อันที่จริงแล้วเราดันเผลอไปใช้ลิปสติกที่หมดอายุการใช้งานนั่นเอง 

สาวสาวรู้ หรือไม่ว่าลิปสติกที่ยังไม่เปิดใช้งานมีอายุกี่ปีกันแน่ 

ลิปสติกที่เราใช้นั้นหากยังไม่เปิดใช้มันก็ยังมีอายุการใช้งานของมันไม่ต่างกับที่เราได้เปิดใช้แล้วเช่นกันโดยปกติแล้วลิปจุ๋มหรือลิปบาล์มลิปกอดที่เรารู้จักมันมีอายุการใช้งานประมาณสามปีแต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเราเปิดใช้งานแล้วจะใช้ได้ถึงสามปีนะคะเพราะหากมีการเปิดใช้งานเราควรใช้งานให้หมดภายในสองปีค่ะ 

ซึ่งเอาจริงๆแล้วรีบส่วนใหญ่ก็ไม่ควรเกินหนึ่งปีนะคะเพราะถือได้ว่าไม่ว่าจะเจอสภาพอากาศที่ร้อนจัดหรือการใช้งานในรูปแบบที่ผิดแปลกไปอาจส่งผลให้นิติของคุณหมดอายุเร็วขึ้นโดยที่คุณไม่รู้ตัวซึ่งหากใช้ไปแล้วเกิดอาการแพ้มีผื่นคันหรือบวมแดงหรืออาจจะเป็นตุ่มบริเวณปากให้คุณควรรีบหยุดใช้ทันทีและสิ่งที่สำคัญควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วนก่อนที่มันจะเป็นอะไร มากไปกว่านี้นะคะ 

สำหรับท่านที่สงสัยว่าลิปสติกหมดอายุแล้วสามารถนำมาใช้งานได้หรือไม่ 

สิ่งที่เราจะบอกต่อไปนี้อาจจะขัดใจกับสาวสาวหลายคนก็ได้นะคะแต่หากลิปสติกที่หมดอายุแล้วแล้วคุณโยนทิ้งเถอะค่ะไม่ควรนำมาใช้อย่างแน่นอนเข้าใจนะว่าลิปสติกของคุณอาจจะมีสีสวยโดดเด่นหรือราคาแพงก็ตามแต่หากมีการหมดอายุแล้วไม่ควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาใช้เพราะถือได้ว่าเป็นของที่หมดอายุคุณภาพก็เสื่อมไปด้วยโดยอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคือง บริเวณริมฝีปากของเราได้นั่นเอง              

Continue Reading

วิธีเคล็ดลับเด็ดๆ ของการเอาชนะบาคาร่า

วิธีเคล็ดลับเด็ดๆ ของการเอาชนะบาคาร่า ที่เซียนบาคาร่าทั้งหลายไม่อยากจะบอกคุณ

(ใครอยากจะบอกล่ะเนาะ ขาดดุลรายได้)

สำหรับคนที่ชอบแสวงหาโชคโดยการเล่นเกมออนไลน์ อย่างเช่น บาคาร่าออนไลน์ โดยเฉพาะบนเว็บไซด์ที่เปิดให้เข้าเล่นตามเว๊ปต่างๆ ซึ่งเป็นเกมส์ที่ผู้เล่นส่วนมากให้ความนิยม 

พวกคุณคงเคยเห็นสูตรและเทคนิคการเล่นต่างๆผ่านตามาบ้าง และส่วนใหญ่ที่เห็นก็จะมีเผยแพร่ไว้มากมายบนเว๊ปไซด์เทคนินการเล่นของคาสิโน เช่นที่เว๊ป GTRBetclub ก็มีสูตรบาคาร่า ทำเงินวันละ 500 ได้แจกฟรีเป็นวิทยาทาน Gclub ฟรี 500 ก็มีมาแล้ว มีผู้เล่นหลายๆคนอยากรู้สูตรที่สามารถใช้ได้ผลจริงในเกมบาคาร่าให้ได้มากขึ้น 

มีโปรแกรมสุตรบาคาร่า ช่วยแค่คำนวณแต่ไม่ได้ช่วยเล่นมาแนะนำ

เชื่อว่าหลายๆคน คงเคยได้ยิน หรือทำการค้นหา ทำการบ้านมาแล้ว เกี่ยวกับโปรแกรมการคำนวนเกมบาคาร่า บางคนก็ว่ากันว่ามันคือการหลอกลวงอย่างหนึ่ง แต่จากการทดลอง โปรแกรมคำนวนบาคาร่านั้น สามารถช่วยให้เราทำการชนะเกมได้ แต่ก็แค่ได้ผลประมาณ70% เพียงเท่านั้น ส่วนที่เหลือคุณก็จะต้องใช้การเดินเงินอย่างเฉลียวฉลาดเข้าไปด้วย เพื่อให้มีการแทงแต่ละครั้งมีผลกับเงินรางวัลที่มากขึ้น อย่างไรก็ตามคุณก็ควรเลือกโปรแกรมคำนวณอย่างดี อย่าหลงเชื่อพวกมิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกขายโปรแกรม เพราะตามความจริงแล้ว เราจะไม่สนับสนุนการใช้โปรแกรมหรือบอทเข้ามาเล่นแทนในคาสิโน

การแทงทบ หรือระบบมาติงเจล

การเอาชนะบาคาร่า มีวิธีการเดินเงินแบบง่ายๆ ที่เรียกกันว่าแทงทบ นั่นคือถ้าเราเสียเท่าไหร่ เราก็วางเดิมพันมากขึ้น 1 เท่า เช่นเสีย100ก็วางเดิมพัน200 ถ้าเสียก็ทบไปเรื่อยๆ แต่ว่าต้องใช้ทุนสูงมาก อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีเงินทุนน้อย การเล่นระบบแทงทบ คุณต้องยอมเสียเงินก้อนเล้กๆ เพื่อจัดการให้ได้เงินก้อนใหญ่ๆ แต่อย่าลืมคุณต้องมีวินัยในการเล่นและมีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ด้วย

 

Continue Reading

สานฝันน้องแจ๋วแหวว อุ๊บ วิริยะ สอนเดินแบบฟรี

  หากยังจำกันได้เมื่อว่าทางสำนักข่าวช่องอัมรินนท์ได้มีการนำเสนอข่าวหนึ่งไปเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ขายพวกมาลัยช่วยแม่ที่แยกพระราม 9 แล้วมีการโพสต์ท่าเหมือนนางแบบจนมีคนแอบถ่ายรูปแล้วนำมาแชร์ต่อต่อกันเป็นจำนวนมากจนเป็นข่าวโด่งดัง 

ซึ่งเมื่อวานทางนักข่าวได้ไปเจอกับยายของน้องแจ๋วแหวว น้องคนที่ขายพวงมาลัยแล้วโพสต์ท่านางแบบจนเป็นข่าวดังข้ามคืน ยายบอกว่าน้องเป็นคนขยันเรียน และมาช่วยครอบครัวขายมาลัยเอาเงินไว้ไปเรียนหนังสือ เมื่อวานยายบอกว่าน้องอยากเป็นหมอ อยากเป็นนักแสดง 

แต่น้องเป็นคนขี้อาย และเมื่อข่าวออกเมื่อคืน คุณ อุ๊บ วิริยะ นักปั้นมือทองบอกว่าอยากเจอมาก จนวันนี้นักข่าวได้พาไปเจอกับน้องแจ๋วแหวว และคุณอุ๊บ วิริยะ ได้สอนน้องเดินแบบเพราะอยากช่วยน้องให้ทำในสิ่งที่น้องชอบ เพราะคุณอุ๊บ วิริยะ มีสถานบันสอนเดินแบบ จึงอยากสานฝันให้น้องไปเรียนเดินแบบฟรี 

ซึ่งเรื่องนี้พอมีคนรู้ว่าคุณ อุ๊บ วิริยะจะมาช่วยสอนเด็กเดินแบบก็มีกระแสดราม่าออกมาว่าจะเกาะกระแสเด็กดัง ซึ่งคุณ อุ๊บก็บอกแต่เพียงว่า หลายคนก็หลายความคิด ใครจะว่าอย่างไรก็จะไม่สนใจ เพราะตัวเองรู้ว่ากำลังทำอะไร เพราะเป็นความตั้งใจของตัวเองอยู่แล้วว่าอยากจะช่วยสังคม ดังนั้นพอเห็นว่าเด็กมีความสามารถและมีความตั้งใจดีที่อยากจะเรียนเดินแบบ เพื่อจะได้มีรายได้ไปช่วยเหลือครอบครัวในอนาคต ทำให้คุณ อุ๊บ อยากจะช่วยเหลือ เพราะไม่ได้เป็นการนำเงินไปช่วยแต่เป็นการช่วยสานฝันให้น้องได้ทำตามสิ่งที่ฝันเอาไว้ได้สำเร็จ

ซึ่งในครั้งนี้คุณ อุ๊บยินดีให้น้องเรียนฟรี และไม่ได้บังคับน้องว่าจะเรียนหรือไม่เรียนก็ได้ และถ้าเรียนก็สามารถเลือกเรียนได้ว่าจะเรียนร้องเพลงหรือเรียนเดินแบบก็ได้  ซึ่งหลายคนทีรู้จักกับเด็กแจ๋วแหวว ต่างก็ออกมาบอกว่าเด็กน้อยเป็นคนนิสัยดี ชอบออกมาช่วยแม่ทำงาน ที่มีอาชีพขายพวงมาลัย และน้องเป็นคนรักสวยรักงาม จะต้องแต่งตัวให้สวยก่อนจึงจะสามารถออกขายพวกมาลัยได้ ซึ่งน้องเองก็เคยบอกกับแม่ว่าอยากจะเป็นนางแบบ น้องมีความสุขในการเดินโพสต์ท่าแต่งตัวสวยสวย ซึ่งการที่คุณ อุ๊บ เข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องทีน่ายินดีเป็นอย่างมาก 

         สำหรับเรื่องของคุณ อุ๊บช่วยเหลือเด็กในการสานฝันให้เรียนฟรีนั้นถือว่าเป็นการช่วยเหลือสังคมอย่างหนึ่งเป็นสิ่งที่ดี เราจังไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่เขาทำความดี เราควรจะส่งเสริมและช่วยสนับสนุนจะดีกว่า

Continue Reading

ระวังมิจฉาชีพหลอกซื้อหน้ากากอนามัย

ระวังมิจฉาชีพหลอกซื้อหน้ากากอนามัย ซื้อให้หมดตลาดแล้วเอากลับมาขายในราคาแพง

สภาวะที่โรคภัยมีอยู่ล้อมรอบตัวเรามากมายนั้น การดูแลรักษาสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ ยิ่งช่วงนี้มีทั้งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A ,  โรคไวรัสโคโรนา , ไข้หวัดนก , และยังมีปัญหาเรื่องฝุ่นพิษ PM2.5 อีกดังนั้นสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้งานกันมากที่สุดในตอนนี้ก็คือหน้ากากอนามัย และเจลฆ่าเชื้อโรคสำหรับทำความสะอาดมือ แต่ทว่าในขณะนี้นั้นทั้งเจลล้างมือและหน้ากากอนามัยกลับเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ยากมาก ไปซื้อที่ไหนก็ไม่สามารถหาซื้อได้ ขนาดตามโรงพยาบาลยังไม่มีขายให้เลย ร้านขายส่งที่เคยมีขายไม่อั้นตอนนี้ก็ยังบอกว่าของหมดและจากการที่สังเกตุดู

ตอนนี้มีคนโพสต์ขอกว้านซื้อหน้ากากอนามัยกันเป็นจำนวนมาก บางคนโพสต์ซื้อหน้ากากอนามัยกัน สี่สิบถึงห้าสิบล้านชิ้นก็มี ซึ่งอันที่จริงที่ให้คิดดูดีๆมันผิดวิสัยของคนที่จะซื้อมาใช้งานเองเป็นอย่างมากเพราะมีการซื้อหน้ากากอนามัยตุนไว้เยอะจนเกินไป ซึ่งหลายคนออกมาวิเคราะห์กันว่าการซื้อตุนหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมากแบบนี้เป็นเพราะผู้คนเหล่านั้นต้องการที่จะตุนหน้ากากอนามัยเอาไว้เพื่อโก่งราคาขายแบบแพงๆในภายหลัง เพราะทุกคนต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าโรคทั้งหลายที่กล่าวถึงไปเมื่อขั้นต้นนั้นยังไงก็ต้องเป็นอีกนาน

อย่างน้อยอีกหกถึงเจ็ดเดือนเลย เพราะฉะนั้นการตุนหน้ากากอนามัยเอาไว้ขายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำกำไรให้กับตัวเอง แต่การที่ทำแบบนี้ก็เป็นการสร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น เป็นการค้ากำไรเกิดควรซึ่งมีความผิดด้านกฎหมาย ตำรวจสามารถจับได้ โดยในตอนนี้มีคนรวบรวมเบาะแสกันเข้ามาเป็นจำนวนมากว่ามีใครบ้างที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับการขอซื้อหน้ากากอนามัยที่ดูเยอะจนผิดปกติเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการจับกุมต่อไป  การขายของเพื่อเอากำไรใครๆก็อยากได้ทั้งนั้น

แต่ก็ไม่ควรที่ค้ากำไรจนเกินไป จนทำให้คนอื่นเดือนร้อน เพราะโรคภัยไข้เจ็บเป็นเรื่องใหญ่ที่ทุกคนควรป้องกันดังนั้นจึงไม่ควรซื้อหน้ากากอนามัยตุนไว้มากมายแบบนี้แล้วนำมาออกขายในราคาแพงภายหลัง ในช่วงที่ประเทศชาติเป็นแบบนี้มีเรื่องวิกฤติที่ยิ่งใหญ่มากแบบนี้คนไทยควรจะช่วยเหลือกันเป็นดีที่สุด การที่กว้านซื้อหน้ากากอนามัยไว้เยอะ หากวันหนึ่งไม่มีคนซื้อหน้ากากอนามัยต่อจากคุณแล้วคุณจะทำอย่างไร เงินที่คุณลงทุนไปอาจจะต้องสูญเปล่า เพราะยังไงซะโรงงานที่ผลิตหน้ากากอนามัยโดยตรงเขาก็ต้องผลิตหน้ากากอนามัยออกมาจำหน่ายเรื่อยๆอยู่แล้วการที่คุณตุนเอาไว้อาจจะไม่มีประโยชน์ก็ได้

 

สนับสนุนโดย  วิธีเล่นบาคาร่าให้รวย

Continue Reading